แต่พระพุทธเจ้าระบุไว้ชัดเจนเลยว่า คนเราเกิดมาจากพรหมที่ลงมากิน "ง้วนดิน" เสร็จแล้วเกิดกายหยาบขึ้นมา ไม่สามารถที่จะเหาะกลับไปยังที่สถิตของตนได้ แล้วท้ายที่สุดก็กลายเป็นต้นกำเนิดมนุษย์ขึ้นมา
หรือไม่ก็การเกิดของคน ที่อยู่ในลักษณะเชื้อของพ่อผสมกับไข่ของแม่ พระพุทธเจ้าอธิบายในลักษณะ ๗ วัน ๗ วัน ๗ วันไปเรื่อย จนกระทั่งถึงคลอดออกจากท้องแม่มา ทุกวันนี้บรรดาหมอและนักวิทยาศาสตร์งงมากว่า สมัยนั้นไม่ได้มีเครื่องไม้เครื่องมืออะไร ทำไมพระพุทธเจ้าอธิบายได้ตรงตามการศึกษาของวิชาการแพทย์ที่เขาใช้เวลาหลายร้อยปีในการศึกษาและผ่าดูมานับไม่ถ้วน ทุกอย่างเป็นไปตามนั้นหมดเลย
ดังนั้น...ในเรื่องของจิตศาสตร์ จึงไม่ใช่เรื่องที่จะมาคิดว่า คาดว่า เป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ แต่เป็นเรื่องที่ต้องลงมือทำเพื่อให้เกิดผลจริง ๆ
อย่างที่กระผม/อาตมภาพบรรยายให้กับพระใหม่ฟังวันนี้ว่า สิ่งต่าง ๆ สำเร็จได้ด้วยใจ ทำไมหลวงปู่ท่านหนึ่ง คนไปขอรดน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ก็ใช้คาถาบทนั้น ไปขอรดน้ำมนต์เพื่อให้พ้นจากทหารก็คาถาบทนั้น ไปรดน้ำมนต์ขอให้สาวรักสาวหลงก็คาถาบทนั้น ไปรดน้ำมนต์ให้อยู่ยงคงกระพันก็คาถาบทนั้น ไปรดน้ำมนต์ขอให้แคล้วคลาดปลอดภัยก็คาถาบทนั้น สรุปว่าทำอะไร ๑๐๘ ใช้คาถาแค่บทเดียว
ก็เพราะว่าคาถาเป็นเพียงเครื่องโยงจิตให้เป็นสมาธิ เมื่อจิตเป็นสมาธิ มีกำลังเพียงพอ เราต้องการให้เป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น อย่างที่บาลีใช้คำว่า มโนมยา สำเร็จด้วยใจ
เรื่องของวิทยาศาสตร์และจิตศาสตร์จึงไม่ใช่เรื่องเดียวกัน ส่วนใหญ่แล้วคนสมัยนี้เชื่อในเรื่องของวิทยาศาสตร์ เพราะว่ามีบทพิสูจน์ที่จับต้องได้ แต่ลืมไปว่าจิตศาสตร์ก็พิสูจน์ได้ เพียงแต่คุณต้องเข้ามาปฏิบัติจริง ๆ พระพุทธเจ้าท่านกล่าวเอาไว้ชัดเจนว่า เอหิปัสสิโก ขอเธอทั้งหลายจงมาดูเองเถิด ก็คือมาทดลองดู มาทดสอบดู รับประกันว่าถ้าทำดีทำถูก ต้องได้ผลแน่นอน
ดังนั้น...เรื่องพวกนี้ถ้าจะอธิบายให้ชัดเจน พวกท่านต้องศึกษาในทุกศาสตร์ให้ชัดเจน แล้วจะมีคำอธิบายที่บอกได้ว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ไม่ใช่ว่าคลำเอามุมใดมุมหนึ่ง แบบเดียวกับ "ตาบอดคลำช้าง" แล้วก็ไปสรุปว่าเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ ซึ่งโอกาสผิดมีมากเกิน ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์..!
สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๒๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-07-2022 เมื่อ 03:22
|