วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๒๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ แม้ว่ายังอยู่ในช่วงที่ลาโดยสัตตาหกรณียะ แต่กระผม/อาตมภาพก็ต้องวิ่งกลับวัดท่าขนุน เพื่อไปเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอบรมพิธีกรและศาสนพิธีกรตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ซึ่งดำเนินการโดยสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ
เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าไม่ใช่ผู้ที่มีความชำนาญหรือว่าเชี่ยวชาญจริง ๆ ก็อาจจะใช้คำพูดที่ผิดหรือว่าอาจจะกระทำผิด และก่อให้เกิดความเสียหายได้มากอย่างที่คิดไม่ถึง
อย่างเช่นว่า การใช้ธูปเทียนแพนั้น ถ้าหากว่าเป็นงานมงคล ให้หันด้านที่เป็นธูปขึ้น ถ้าหากว่าเป็นงานอวมงคล ให้หันด้านที่เป็นเทียนขึ้น เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่แล้ว พวกเราเองอาจจะขาดการสังเกตเพราะไม่รู้ ก็อาจจะทำผิด อย่างเช่นว่า ถ้าหากว่าไปขอขมาพระเถระ แล้วเราใช้ธูปเทียนแพ โดยหันเทียนขึ้น ซึ่งโบราณก็ถือในลักษณะที่ว่าเป็นการขอขมาศพ..!
ดังนั้น...เรื่องทั้งหลายเหล่านี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่พวกเราจะต้องศึกษาเพื่อที่จะให้รู้จริง อย่างเช่นว่า บางทีมีการดึงสายโยงเพื่อที่จะทอดผ้าบังสุกุล พิธีกรก็ไปใช้คำว่า "ภูษาโยง" คำว่า ภูษาโยงนั้นจะใช้ได้เฉพาะงานพระบรมศพ หรือว่างานพระศพระดับตั้งแต่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ขึ้นไปเท่านั้น ถ้างานทั่ว ๆ ไปก็ใช้คำว่า "สายโยง" ซึ่งบางทีก็เป็นสายสิญจน์ทั่วไปนั่นเอง
แต่คราวนี้ ถ้าใช้คำว่า "สายโยง" ก็คืองานที่เกี่ยวเนื่องด้วยงานศพ ถ้าใช้คำว่า "สายสิญจน์" เมื่อไร กลับกลายเป็นงานมงคลเมื่อนั้น อย่างเช่นว่ามีการตั้งขันน้ำมนต์วงสายสิญจน์ เป็นต้น ถ้าลักษณะอย่างนี้ก็คืองานมงคล อย่างเช่นว่า ขึ้นบ้านใหม่ งานแต่งงาน หรือถ้าหากว่าไม่มีการตั้งขั้นน้ำมนต์ ก็แปลว่างานนั้นเป็นงานอวมงคล ก็คืองานที่เกี่ยวเนื่องด้วยงานศพ ถ้าเราไม่รู้ ไปใช้คำพูดผิด ก็อาจจะสร้างความเสียหายให้แก่ตนเอง
อันดับแรกก็คือ เราเป็นผู้ที่ไม่รู้ อันดับต่อไปก็คือ ครูบาอาจารย์ก็โดนตำหนิไปด้วย ในขณะเดียวกัน ถ้าหากว่าเป็นงานที่เนื่องด้วยพระราชพิธีแล้วเราทำผิด ก็อาจจะเจอข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพได้ง่าย ๆ..!
ดังนั้น...ในเรื่องของการฝึกฝนอบรมพิธีกรและศาสนพิธีกรตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนานั้น จึงเป็นเรื่องที่จำเป็น โดยเฉพาะในส่วนที่ฆราวาสใช้คำพูดเกี่ยวกับพระ อย่างเช่นว่า สมัยที่กระผม/อาตมภาพจัดงานฉลองสัญญาบัตรพัดยศที่พระครูวิลาศกาญจนธรรม พิธีกรใช้คำว่า "ได้รับสถาปนาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ซึ่งเป็นการใช้ที่ผิดพลาดเกินไปอย่างมากมายมหาศาล
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-08-2022 เมื่อ 03:05
|