ดังนั้น...ประโยชน์เรื่องของทาน ของศีล ของภาวนา จึงเป็นประโยชน์ใหญ่ทั้งในปัจจุบัน ที่ภาษาบาลีเรียกว่า ทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์
ถ้าสามารถทำได้ถึงระดับมั่นคง ส่งผลให้คติ คือ ที่ไปในชาติต่อ ๆ ไปมั่นคงไปด้วย ก็เป็นสัมปรายิกัตถประโยชน์
แต่ถ้าหากว่าใช้สมองซีกขวาได้อย่างเต็มที่ พินิจพิจารณาเห็นตามความเป็นจริงในข้อธรรมที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนเอาไว้ สามารถตัดสินใจกระทำตามนั้นได้ทุกอย่าง ก็เป็นปรมัตถประโยชน์ คือประโยชน์สูงสุดที่จะพึงมีพึงได้จากพระพุทธศาสนา
ดังนั้น...จากการที่ร่วมสัมมนามา ก็ต้องบอกว่า เป็นการสัมมนาออนไลน์ กระผม/อาตมภาพเป็นผู้ที่ระลึกรู้ตัวอยู่ว่า ถ้าเราเอาแต่แสดงทัศนคติออกไป ถึงจะดีแค่ไหน ก็เป็นการรบกวนเวลาผู้อื่น จึงหยุดลงหลังจากที่แสดงทัศนคติไป ๒ รอบเท่านั้น สิ่งที่อยากจะพูดจริง ๆ จึงเอามาพูดตรงนี้แทน
วันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกเล่าแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๒๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2022 เมื่อ 02:37
|