ส่วนอีกข้อหนึ่งที่จะแถมให้ว่าปฏิบัติแล้วไม่ก้าวหน้านั้น เกิดจากสาเหตุที่ว่าอยากดีจนเกินไป ในเมื่อเราอยากดีจนเกินไป เราก็พยายามเร่งรัดการปฏิบัติ เอาใจจดจ่ออยู่ ตามจี้อยู่ตลอดเวลา แต่กลายเป็นว่า สิ่งนี้กลับเป็นความฟุ้งซ่านในใจของเราเอง ก็คือฟุ้งอยากได้ดีจนเกินไป กลายเป็นส่วนของอุทธัจจกุกกุจจะ เพราะอารามอยากได้ดี ก็เลยตามรู้ตามจี้ติดทุกสถานการณ์ ถ้าหากเปรียบกับบุคคลทั่ว ๆ ไป ก็คือ ไปตามตอแยเขาจนเขารำคาญ ก็ต้องหลีกหนีไปเสีย กำลังใจของเราก็เช่นกัน ถ้าอยากดีจนเกินไป ตามจี้อยู่ตลอดเวลา กำลังใจก็จะไม่ทรงตัว เพราะว่าแทนที่จะเป็นสมาธิ ก็กลายเป็นความฟุ้งซ่านอยากได้ดี
สิ่งทั้งหลายที่กล่าวมานี้ทั้ง ๔ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติเกินก็ดี ปฏิบัติขาดก็ดี ปฏิบัติแล้วไม่ได้รักษากำลังใจไว้ก็ดี หรืออยากได้ดีจนเกินไปก็ดี ล้วนแล้วแต่เป็นตัวขวางให้เราทำการภาวนาแล้ว ได้ผลน้อย ได้ผลช้า หรือว่าไม่ได้ผลเลย จัดเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งในการปฏิบัติของพวกเรา เมื่อเรารู้แล้วก็พยายามแก้ไข ละเสียในสิ่งที่ควรจะละ ถ้าหากว่าเราทั้งหลายพยายามทำดังนั้นได้ ความก้าวหน้าก็จะค่อย ๆ มี
ความดีของเรานั้นขอยืนยันว่าไม่ได้ไปไหน แม้ว่าจะได้วันละเล็กวันละน้อยก็ตาม ก็จะสั่งสมตัวอยู่ เมื่อมากเข้าก็เพียงพอแก่การใช้งาน เราจะรู้ได้อย่างไรว่าพอใช้งาน ก็ต้องเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น อย่างเสียงระเบิดเมื่อครู่นี้ ถ้ากำลังใจของเราทรงตัว ก็จะมั่นคงเฉพาะอยู่ข้างหน้า ไม่ได้ไปใส่ใจ แต่ถ้ากำลังใจไม่ทรงตัว ก็จะเกิดอาการสะดุ้งตกใจ และไปสนใจว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนี้เป็นต้น
วิธีที่จะทำให้กำลังใจทรงตัวดีที่สุดก็คือ กำหนดความรู้สึกทั้งหมดอยู่กับลมหายใจเข้า ลมหายใจออก หายใจเข้าจะแรง..จะเบา..จะยาว..จะสั้น รู้อยู่ หายใจออกจะแรง..จะเบา..จะยาว..จะสั้น รู้อยู่ พร้อมกับคำภาวนาที่เราชอบใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าหากท่านที่มีความคล่องตัว จะกำหนดภาพพระควบไปด้วยก็ได้ ให้พวกเราพยายามปฏิบัติอย่างนี้ สะสมอย่างนี้ไปทุกวัน ๆ เพื่อที่ความดีของเราจะได้มีมากขึ้น ๆ และท้ายสุดเมื่อพอใช้งานก็มีกำลังในการตัดกิเลสได้
ตอนนี้ก็ขอให้ทุกท่านรู้กำหนดลมหายใจเข้าออก กำหนดรู้คำภาวนาของแต่ละคน กำหนดภาพพระของแต่ละคนไป รักษาอารมณ์ใจให้ปักมั่นอยู่เฉพาะหน้า จนกว่าจะได้ยินเสียงสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันศุกร์ที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-12-2010 เมื่อ 02:57
|