แม้แต่กระผม/อาตมภาพเอง ในระยะแรกที่เริ่มทำความดี แล้วเจอการเสียดสีทุกรูปแบบ ยังได้แต่งกลอนเอาไว้เตือนใจตัวเองว่า
เมื่อแรกทำ ความดี สิ่งที่พบ
คือประสบ ความเจ็บปวด รวดร้าวแสน
ถูกเยาะเย้ย ถากถาง ทั้งดินแดน
ซ้ำหมิ่นแคลน ดังเราไซร้ ไร้ฝีมือ
คนทำดี มีเท่าใด ในหล้าโลก
คิดว่าโชค จะเข้า ข้างเจ้าหรือ ?
อยากจะเป็น คนดี ที่โลกลือ
ช่างซื้อบื้อ น่าทุเรศ สังเวชใจ
เอาเถิดท่าน ตัวฉัน นั้นย่อมรู้
ว่าฉันทำ อะไรอยู่ ไหวไม่ไหว
เมื่อท่านติ ก็เป็นครู ดูต่อไป
ถ้าไม่ดี เชิญติใหม่ ไม่ว่ากัน
ไม่ย่อท้อ ต่อคำใคร ในโลกหล้า
ปณิธาน หาญกล้า ยังคงมั่น
จะทำดี ให้เลิศฟ้า กว่าไกวัล
ตราบจนถึง ซึ่งนิพพาน ฉันจึงพอ
ตอนนั้นต้องเรียกว่าเป็นการแต่งกลอนระบายอารมณ์ของตนเอง มาถึงตอนนี้ก็ยังนึกขำว่า ถ้าเราไม่ไปแบกสิ่งที่คนอื่นเขาทำเอาไว้ ก็ไม่ต้องมาเสียเวลาแต่งกลอนแบบนี้อีก
ฝากกลอนนี้เอาไว้สำหรับท่านทั้งหลายที่ทำความดี แล้วมีแรงเสียดทาน มีแรงกระทบสูงมาก นำเอาบทกลอนนี้ไปเป็นเครื่องเตือนใจตนเอง ว่าสิ่งที่คนอื่นเขากล่าวมาว่ามานั้น ก็คือสิ่งที่เป็นมุมมองของเขา ส่วนตัวเราทำอะไร เพื่ออะไรนั้น ตัวเราเองจะเป็นผู้ที่รู้ดีที่สุด
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-09-2022 เมื่อ 01:10
|