พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านสอนอยู่เสมอว่า เหมือนกับเราตั้งใจปีนต้นไม้ ถ้าตั้งใจว่าจะขึ้นให้ถึงยอด เราก็ต้องตะกายสุดกำลัง ต่อให้ไม่ถึงยอด อย่างน้อย ๆ กิ่งล่าง ๆ นั้น เราไปถึงได้แน่ แต่ถ้าหากว่าเราตั้งเป้าเอาไว้ต่ำ ดีไม่ดีกิ่งล่างก็ขึ้นไปไม่ถึง
ดังนั้น..ไม่ว่าจะมองต่ำเราเหลือ มองเหนือเราขาด หรือว่าการที่เราลืมพินิจพิจารณาตัวเราเอง ว่ามีความก้าวหน้าอะไรขึ้นมาบ้าง จากคนที่ฟังธรรมไม่รู้เรื่อง ศีลหน้าตาเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ ตอนนี้ส่วนหนึ่งถึงขนาดบวชพระ บวชเณร บวชชี บวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมกันบ่อย เป็นความก้าวหน้าที่เห็นได้ชัด เพียงแต่เราลืมไป เพราะว่าไปตั้งเป้าว่าชีวิตนี้ต้องไปพระนิพพานให้ได้ ไม่ได้ดูว่าระหว่างทางมีอะไรบ้าง เราผ่านอะไรไปบ้าง ดังนั้น..ให้เรามองเป้าหมายใกล้ ๆ ก่อน
อย่างตัวกระผม/อาตมภาพเองตั้งเป้าไว้แค่ปฐมฌานเท่านั้น ไม่ได้ต้องการสูงกว่านั้นเลย เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าถ้าเป็นปฐมฌาน เราทรงตัวได้จริง ๆ แค่ทบทวนศีลให้บริสุทธิ์ ใช้ปัญญาเพียงเล็กน้อย เราก็สามารถเข้าถึงความเป็นพระโสดาบันได้
ถ้าสามารถใช้กำลังของปฐมฌานกด รัก โลภ โกรธ หลงลงไปได้ เราสามารถเข้าถึงความเป็นพระสกทาคามีได้
กระผม/อาตมภาพเห็นว่า ถ้าเราปิดอบายภูมิด้วยอำนาจของพระอริยเจ้าระดับโสดาบันได้ ที่เหลือไม่มีอะไรหนักใจแล้ว จะเกิดอีกกี่ชาติก็อยู่ระหว่างเทวดากับมนุษย์ หรือไม่ก็พรหมกับมนุษย์ ถ้าหากว่าอย่างแย่ที่สุดก็เกิด ๗ ครั้ง อย่างกลางก็ ๓ ครั้ง ถ้าเลิศหน่อย ก็ครั้งเดียวจบ..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-10-2022 เมื่อ 01:52
|