วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๗ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เพื่อความสบายใจของญาติโยมและพวกเราทั้งหลาย กระผม/อาตมภาพก็ไปให้อาจารย์บ๊ะ (พระอาจารย์ศิริชัย ชยธมฺโม) ท่านด่ามา "สั่งแล้วว่าอย่าไปหาหมอ ไม่มีอะไรดันไปหา เป็นอย่างไรล่ะ ? แค่พักเดียวหมดไปเกือบ ๒๐,๐๐๐ บาท..!" กระผม/อาตมภาพต้องบอกกับท่านว่า "ไปซื้อความสบายใจให้ลูกศิษย์" ท่านบอกว่า "เออ..ถ้าตอบอย่างนี้พอรับได้" แต่กระผม/อาตมภาพไม่ได้ตอบว่า "ไปใช้สิทธิ์ประกัน..!" ทำประกันมา จ่ายปีหนึ่งตั้งหลายหมื่นบาท จ่ายมาหลายสิบปีแล้ว เพิ่งจะได้ใช้แค่ครั้งเดียว..!
สรุปว่ามีอย่างเดียวคือรอให้ร่างกายค่อย ๆ ฟื้นฟูตัวเอง เพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องของสมอง แต่ว่าเป็นเรื่องของเส้นประสาทเท่านั้น แล้วอีกอย่างไอ้การปากเบี้ยวก็ดูเป็นเอกลักษณ์ดี ต่อไปเวลาด่าใครจะได้รู้ตัวว่า "ด่าเขามาก ปากเลยเป็นอย่างนี้..!"
ช่วงที่เดินทางกลับกระผม/อาตมภาพก็ได้ร่วมการประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ไปด้วย ส่วนที่พระเดชพระคุณพระเทพศาสนาภิบาล, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ท่านย้ำนักย้ำหนาก็คือว่า "งานของคณะสงฆ์ต้องการผู้เสียสละ" ท่านใช้คำว่า "ทำงานให้สนุก" กระผม/อาตมภาพไม่รู้ว่าพวกคุณสนุกกันหรือเปล่า ? แต่สำหรับกระผม/อาตมภาพแล้ว ถ้างานง่าย ๆ ก็มักจะไม่สนุก ถ้างานอะไรยาก ๆ คนอื่นทำไม่ได้ แล้วกระผม/อาตมภาพทำได้สำเร็จ นั่นแหละ..ถึงจะสนุก..!
โดยเฉพาะคำสั่งที่เพิ่งลงมา ต้องไปคุมการอบรมก่อนสอบของนักธรรมชั้นโท - ชั้นเอก อีก ๗ วัน ไม่ได้คุมเฉย ๆ ต้องไปประจำกองตรวจปัญหาด้วย กระผม/อาตมภาพก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิคิดอย่างไร ? เพราะว่ามีทั้งเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เลขานุการเจ้าคณะอำเภอ เลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอ ไปเป็นกองตรวจ..!
ที่อื่นอย่างเก่งก็มีเจ้าคณะตำบล ส่วนใหญ่ก็เป็นเจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาส หรือว่าเลขานุการ ก็แล้วแต่ผู้บังคับบัญชาจะมีคำสั่ง แต่ไม่เหมือนกับอำเภออื่นเขา จะบอกว่าเราเห็นความสำคัญมาก ก็เลยขนบุคลากรระดับหัวแถวไปทั้งหมดก็ใช่ ถ้าจะพูดอีกอย่างว่า "โง่ไม่เหมือนเขา" ก็ใช่อีก..!
แต่ก็ต้องไปนึกถึงที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคณะภาค ๑๔ ท่านบอกว่า "การทำงานต้องการผู้เสียสละ ถ้าหากว่าไม่มีคนเสียสละประโยชน์ส่วนน้อยของตน เพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ของส่วนรวม โอกาสที่การงานจะสำเร็จก็ยาก โดยเฉพาะพวกที่เห็นแก่ตัวมากกว่าเห็นแก่คณะสงฆ์ เห็นอะไรที่จะทำให้คณะสงฆ์เสียหาย ก็ไม่มีการป้องกัน ไม่มีการตักเตือน ไม่มีการว่ากล่าว กลัวคนอื่นเขาไม่ชอบขี้หน้า กลัวอันตรายจะเกิดแก่ตัวเอง ถ้าแบบนี้เรียกว่า "เห็นแก่ตัวมากกว่าเห็นแก่พระพุทธศาสนา..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-10-2022 เมื่อ 02:37
|