เหตุที่กล่าวเช่นนั้นก็เพราะว่า การสอบนักธรรมชั้นโทและชั้นเอกนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง สมัยที่กระผม/อาตมภาพสอบนั้น ช่วง ๓๐ กว่าเกือบ ๔๐ ปีที่แล้ว หลักสูตรนักธรรมชั้นโทคือหลักสูตรของพระอาจารย์คู่สวด ถ้าหากว่าท่านสอบนักธรรมชั้นโทผ่านเมื่อไร พรรษาพ้น ๕ ก็จะได้รับการแต่งตั้งเป็นพระอาจารย์คู่สวด
ดังนั้น..ในรุ่นของกระผม/อาตมภาพ หรือว่ารุ่นใกล้เคียงกันนั้น โดนบังคับให้เขียนคำสวดญัตติ และคำสวดอนุสาวนามากันจนนับไม่ถ้วนแล้ว แปลว่า ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายจะผ่านนักธรรมชั้นโทไปได้ ท่านจะต้องเขียนคำสวดญัตติและอนุสาวนา ไม่ว่าจะเป็นการสวดกฐิน การสวดญัตติในงานอุปสมบท ตลอดจนกระทั่งงานสวดในงานต่าง ๆ ที่จำเป็นจะต้องใช้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้ง นะโมชั้นเดียว นะโม ๓ ชั้น นะโม ๕ ชั้น นะโม ๙ ชั้น เป็นต้น
แล้วในส่วนของนักธรรมชั้นเอกนั้น เป็นหลักสูตรของเจ้าอาวาสและพระอุปัชฌาย์ ถ้าหากว่าใครเป็นเจ้าอาวาส จะเห็นว่าหลักสูตรนั้นเอาไว้สำหรับท่านทั้งหลายที่จะต้องศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของสีมา เรื่องสมบัติ วิบัติของกุลบุตรที่จะเข้ารับการบรรพชาอุปสมบท ตลอดจนกระทั่งศึกษาในหลักธรรมชั้นสูงที่เรียกว่าธรรมวิจารณ์ ไม่ว่าจะเป็นหัวข้อเกี่ยวกับวิมุตติ วิสุทธิ สันติ นิพพาน หรือต้องอธิบายว่าวิสุทธิ ๗ ประการเปรียบเหมือนกับรถ ๗ ผลัดนั้น เหมือนในลักษณะอย่างไร ?
ในส่วนนี้นั้นบรรดาผู้เข้าสอบส่วนหนึ่งซึ่งโดนหลวงพ่อเจ้าอาวาสบังคับให้มาสอบ มักจะมีความรู้สึกต่อต้าน เพราะรู้สึกว่าตนเองบวชมาก็หวังความสงบ ตั้งใจที่จะประพฤติวัตร ปฏิบัติธรรม สวดมนต์ ไหว้พระ หาความสุขเฉพาะตนเท่านั้น ทำไมต้องมาเรียนในเรื่องที่ยากลำบากขนาดนี้ด้วย ? แต่ท่านทั้งหลายคงจะลืมไปแล้วว่า ไม่ว่าท่านต้องการความสงบเพียงใดก็ตาม ในส่วนของอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรคนั้น ท่านต้องรบกวนจากญาติโยมอยู่เสมอ
ญาติโยมเป็นผู้ที่เลี้ยงดูเรามาด้วยปัจจัย ๔ เมื่อถึงเวลาญาติโยมเขาเดือดร้อน มีความทุกข์ มาปรึกษาหารือ ถ้าเราไม่รู้ข้อธรรมคำสอนอะไรเลย เราจะเอาหลักธรรมอะไรไปผ่อนคลายความทุกข์ แนะนำให้ญาติโยมทั้งหลายได้สบายใจขึ้น ??
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านทั้งหลายจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องศึกษา โดยเฉพาะวิชาเรียงความแก้กระทู้ธรรมนั้นเป็นวิชาการเทศน์ดี ๆ นี่เอง เพียงแต่ว่าเป็นการเทศน์บนหน้ากระดาษ โดยที่ทางสนามสอบตั้งหัวข้อในการเทศน์มาให้แก่เรา ท่านที่สอบนักธรรมชั้นโทและชั้นเอก อย่างน้อยก็ต้องบวชมา ๒ หรือว่า ๓ พรรษา ถ้าหากว่าท่านที่เคยสอบตก พรรษาก็จะมากกว่านั้น หรือท่านที่ตัดสินใจสอบช้า ก็อาจจะถึง ๑๐ กว่าพรรษา..! ท่านทั้งหลายย่อมได้ศึกษาเรียนรู้มาใน ๒ หรือ ๓ พรรษาที่ผ่านมาเป็นอย่างน้อย ว่าหลักธรรมในศีล ในสมาธิ ในปัญญานั้นเป็นอย่างไร
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2022 เมื่อ 00:57
|