ในเมื่อในส่วนของกิเลสที่เกิดขึ้นเร็วจนบางทีเราก็ไม่รู้ตัว สติของเรายังเท่าทันและระมัดระวังป้องกันได้ เรื่องการที่เราจะมาใช้กับการดำเนินชีวิตประจำวันจึงเป็นของง่าย สามารถที่จะพิจารณาเห็นความก่อนหลังเร็วช้า ลำดับความสำคัญของเรื่องได้ในทันทีทันใด แล้วเราก็จะได้ทำในสิ่งที่ดีที่สุด และเหมาะสมที่สุดกับสถานการณ์ตอนนั้นได้
เรื่องพวกนี้จะว่าไปแล้วกระผม/อาตมภาพก็ทำให้พวกท่านทั้งหลายได้เห็นอยู่ทุกวัน เพียงแต่ว่าพวกท่านอาจจะดูไม่ออก มองไม่เป็น รู้อยู่อย่างเดียวว่าหลวงพ่อทำงานเยอะมาก แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงทำได้ แล้วยกให้เป็นความพิเศษของท่านไป ความจริงแล้วพวกเราทุกคนทำได้ทั้งหมด เพียงแต่ว่าต้องมีความอดทนและพากเพียรอย่างแท้จริง
การปฏิบัติธรรมทุกประเภท ถ้าความอดทนไม่เพียงพอ ก็เลิกเสียกลางคัน ถ้าความพากเพียรไม่เพียงพอ ก็ไปไม่ถึงจุดหมายปลายทางของตน ดังนั้น..เรื่องของขันติบารมีและวิริยบารมี เป็นสิ่งหนุนเสริมการปฏิบัติธรรมของเราอย่างดีที่สุด แต่พวกเรามักจะขาด โดยเฉพาะขาดปัญญาบารมี ไม่รู้ว่าอะไรก่อน อะไรหลัง อะไรควรเร่งทำเพื่อให้เกิดแก่ตัวแล้วจะนำสิ่งดี ๆ เพิ่มเข้ามาในชีวิตของเรา อะไรที่ควรทำทีหลัง เราจะได้ชะลอไว้ก่อน แต่บางทีเราก็ไปทำสับสนปนเปกันไปหมด เรื่องทีหลังเอามาทำก่อน เรื่องก่อนเอาไปทำทีหลัง ความสำเร็จจึงไม่เกิดขึ้นสักที เพราะว่าปัญญาไม่พอ
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๘ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-12-2022 เมื่อ 02:56
|