องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเชื่อมั่นในศักยภาพของมวลมนุษย์ ว่าสามารถที่จะพัฒนาตนเองจากปุถุชน คนหนาด้วยกิเลส ขึ้นเป็นกัลยาณชน คนมีศีลมีธรรม ขึ้นเป็นอริยชน ผู้ก้าวหน้าโดยส่วนเดียว ไม่มีตกต่ำอีก และท้ายสุดพัฒนาได้ถึงจุดสูงสุด สามารถหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้ พระองค์ท่านจึงได้มอบหลักธรรม ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์มาให้แก่พวกเรา เพื่อให้แสวงหาส่วนที่เหมาะสมแก่ตนเองมาใช้งาน ส่วนที่เหมาะสมนั้นจะตรงกับกำลังใจของเราในช่วงนั้น
สมัยก่อนกระผม/อาตมภาพเอง อ่านหนังสือที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเขียน ด้วยความโง่ก็เลยไปขีดเน้นว่า "เนื้อหาตรงนี้สำคัญ" "เนื้อหาตรงนี้สำคัญ" ปรากฏว่าหลังจากที่ปฏิบัติไปเรื่อย ๆ ย้อนกลับมาอ่านใหม่ อ้าว..ตรงนี้ก็สำคัญ ทำไมคราวที่แล้วเราข้ามไปได้ ? เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าอตอนนั้นกำลังใจของเรายังไปไม่ถึง จึงไม่เห็นความสำคัญของเนื้อหาตรงจุดนั้น
ใครก็ตามที่เคยทำอะไรโง่ ๆ ในลักษณะที่มาร์ก หรือว่าพยายามที่จะคัดลอก หรือเน้นในจุดที่กระผม/อาตมภาพพูดไป ขอบอกว่าเสียเวลาเปล่า เป็นการขยายความโง่ของตัวเองอีกต่างหาก เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วทุกอย่างก็สำคัญหมด..!
ดังนั้น..เราจะเห็นว่า แม้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงมีพุทธานุญาต ให้คณะสงฆ์สามารถที่จะเพิกถอนสิกขาบทเล็กน้อยได้ แต่ปรากฏว่ามติของพระเถระทั้ง ๕๐๐ รูปให้คงศีลเอาไว้ครบถ้วนสมบูรณ์ทุกประการ ไม่มีการยกเลิกแม้แต่ข้อเดียว
เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า พระเถระทั้ง ๕๐๐ รูปไม่สามารถที่จะหาข้อที่เป็นศีลเล็กน้อยอย่างที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสได้ เนื่องเพราะว่าทุกท่านเป็นพระอรหันต์ มีสภาพจิตที่ละเอียดมาก เห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติ ทรงก่อตั้ง ทรงสั่งสอนมา ล้วนแล้วแต่สำคัญยิ่งทั้งสิ้น จึงไม่มีอะไรเล็กน้อยในสายตาของพระอรหันต์ทั้ง ๕๐๐ รูปนั้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-12-2022 เมื่อ 03:03
|