ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 28-12-2022, 01:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,642
ได้ให้อนุโมทนา: 151,907
ได้รับอนุโมทนา 4,415,338 ครั้ง ใน 34,232 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ต้อง "เวลคัม" พระวิปัสสนาจารย์ของเราหรือเปล่า ? เพราะว่าทางด้านมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยปิดโครงการปฏิบัติธรรมประจำปี ๒๕๖๕ แล้วพระวิปัสสนาจารย์ของเราก็เพิ่งเดินทางกลับมา

ในเรื่องของการสอนคนอื่น สมัยนี้เราไม่สามารถที่จะทำได้อย่างที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ ก็คือ ยถาวาที ตถาการี พูดอย่างไรก็ทำอย่างนั้น ยถาการี ตถาวาที ทำอย่างไรก็พูดอย่างนั้น เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วเราเองยังไม่สามารถที่จะถึงมรรคถึงผลอย่างแท้จริงได้ แต่ว่าส่วนที่สำคัญที่สุดอันดับแรกเลยก็คือ สอนตามกำลังใจของตนเอง ก็คือพูดแค่ที่เราทำได้ ถ้าอย่างนั้นจะไม่ผิด เพียงแต่ว่าอย่าใส่ทิฏฐิเฉพาะตนเข้าไป

คำว่าทิฏฐิเฉพาะตน ในที่นี้ก็คือ เราปฏิบัติถึงตรงไหน มักจะมีผู้ไปคิดว่าธรรมะของพระพุทธเจ้าคืออย่างนั้น ซึ่งไม่ใช่แน่นอน พอกำลังใจของเราละเอียดขึ้น ก้าวเข้าสู่จุดที่สูงกว่า เราก็จะเห็นว่าที่ผ่านมายังไม่ใช่ แล้วก็ไปยึดมั่นถือมั่นอีกว่าตรงนี้ถึงจะใช่อีก ดังนั้น...ให้สอนตามที่ตนเองทำได้ แต่อย่าใส่ทิฏฐิเฉพาะตนลงไป

อย่างที่ฝรั่งบางท่าน (กระเทือนหรือเปล่า ฝรั่งที่นั่งฟังอยู่ ?) ฝรั่งบางท่านพอปฏิบัติสมาธิภาวนาแล้วบอกว่า ใครอยากรู้ว่าตนเองมีกามราคะรุนแรงแค่ไหน ให้ปฏิบัติสมาธิภาวนาแล้วจะรู้ชัดเจน นี่เป็นทิฏฐิเฉพาะตน เพราะว่าแต่ละคนนั้น จริตนิสัยไม่เหมือนกัน ท่านที่หนักไปในทางโทสะ เมื่อเก็บกด เพราะว่าอารมณ์ของเราโดนกำลังสมาธิกดอยู่ ถ้าหากว่าสมาธิคลายตัวก็จะระเบิดออกไปทางโทสะแทน ก็ไม่ใช่แปลว่าทั้งหมดจะต้องไปทางกามราคะเท่านั้น

อีกส่วนหนึ่งก็คือศึกษาตามพระไตรปิฎก หรือวิสุทธิมรรคแล้วสอนตามนั้น เลียนแบบ "ท่านใบลานเปล่า" คือ "ท่านโปฏฐิละ" พระโปฏฐิละเถระสอนลูกศิษย์เป็นพระอรหันต์เป็นพันรูป แต่ตนเองไม่ได้แม้แต่ความเป็นพระโสดาบัน แต่ท่านสอนตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในเมื่อไม่ออกนอกลู่นอกทาง ลูกศิษย์ที่ได้รับของจริงของแท้ไป มีวาสนาบารมีถึง ปฏิบัติแล้วก็เข้าถึงมรรคถึงผลตามบุญวาสนาของตนเองได้

คราวนี้ในระหว่างที่เราสอนคนอื่น เราก็ต้องพัฒนาตัวเราเองไปด้วย ก็คือสอนตามกำลังใจก็ดี สอนตามพระไตรปิฎกหรือพระวิสุทธิมรรคก็ดี เราก็พยายามทำให้ได้ตามคำสอนนั้นด้วย ถึงจะเข้าลักษณะของความเป็นครูในหัวข้อที่ว่า ภาวนีโย ก็คือแสวงหาความเจริญก้าวหน้าใส่ตัวอยู่ตลอดเวลา

ดังนั้น..ท่านทั้งหลายถ้าหากว่าจำเป็นต้องไปสอนคนอื่น เราเองไม่ใช่บุคคลที่พ้นจากกองกิเลสทั้งปวงอย่างสิ้นเชิง ก็ต้องอาศัยหลักตามที่กระผม/อาตมภาพว่ามานี้ อันดับแรกเลยก็คือ สอนตามกำลังใจที่ตนเองทำได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-12-2022 เมื่อ 03:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา