ถ้าหากว่าเคยชินกับกำลังของอุปจารสมาธิขั้นปลาย ท่านก็สามารถเป็นเทวดา เป็นนางฟ้าได้ แต่ถ้าหากว่าเข้าถึงปฐมฌานขั้นหยาบ ท่านก็เกิดเป็นรูปพรหมชั้นที่ ๑ ได้ เข้าถึงในระดับกลาง ท่านเกิดเป็นรูปพรหมชั้นที่ ๒ ได้ เข้าถึงในระดับละเอียด ท่านเกิดเป็นรูปพรหมชั้นที่ ๓ ได้
ถ้าหากว่าเข้าถึงทุติยฌาน คือฌานที่ ๒ ในระดับหยาบ ท่านสามารถเกิดเป็นรูปพรหมชั้นที่ ๔ ได้ ถ้าเข้าถึงในระดับกลาง ท่านสามารถเกิดเป็นรูปพรหมชั้นที่ ๕ ได้ เข้าถึงในระดับละเอียด เกิดเป็นรูปพรหมชั้นที่ ๖ ได้
ถ้ามีความสามารถยิ่งไปกว่านั้น เข้าถึงตติยฌาน หรือว่าฌานที่ ๓ ถ้าเป็นระดับหยาบ ท่านสามารถเข้าถึงความเป็นรูปพรหรมชั้นที่ ๗ ได้ เข้าถึงระดับกลาง สามารถเกิดเป็นรูปพรหมชั้นที่ ๘ ได้ เข้าถึงในระดับละเอียด สามารถเกิดเป็นรูปพรหมชั้นที่ ๙ ได้
หรือถ้าท่านมีความคล่องตัวยิ่งไปกว่านั้น สามารถเข้าถึงจตุตถฌาน ซึ่งแบ่งออกเป็นแค่ ๒ ส่วนเท่านั้น คือในส่วนของฌาน ๔ ระดับหยาบ ท่านจะเกิดเป็นรูปพรหมชั้นที่ ๑๐ ถ้าสามารถเข้าถึงฌาน ๔ ในระดับละเอียด ท่านจะเกิดเป็นรูปพรหมชั้นที่ ๑๑ นี่เป็นอานิสงส์ในระดับกลาง ที่เรียกว่าสัมปรายิกัตถประโยชน์
หรือถ้าท่านทั้งหลายเบี่ยงเบนไปในการเข้าถึงอรูปฌาน ถ้าเข้าถึงอรูปฌานที่ ๑ ที่เรียกว่าอากาสานัญจายตนฌาน ท่านสามารถเกิดเป็นอรูปพรหมชั้นแรกที่เรียกว่า อากาสานัญจายตนพรหม
ถ้าเข้าถึงอรูปฌานในระดับที่ ๒ ท่านสามารถเกิดเป็นวิญญานัญจายตนพรหม ซึ่งเป็นอรูปพรหมชั้นที่ ๒
ถ้าเข้าถึงระดับที่ ๓ ท่านสามารถเกิดเป็นอากิญจัญญายตนพรหม ซึ่งเรียกว่าอรูปพรหมในระดับที่ ๓
ถ้าเข้าถึงที่สุด เรียกว่าเข้าถึงสมาบัติที่ ๘ คือรูปฌาน ๔ และอรูปฌาน ๔ ท่านสามารถเกิดเป็นเนวสัญญานาสัญญายตนพรหม นี่เป็นอานิสงส์เบื้องกลางของการปฏิบัติกรรมฐาน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2023 เมื่อ 09:31
|