ดูแบบคำตอบเดียว
  #9  
เก่า 01-01-2023, 23:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,491 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนอีกประเภทหนึ่งนั้นน่าสงสารยิ่งกว่าอีก เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเมื่อท่านทั้งหลายภาวนาจนกำลังใจทรงตัวเต็มที่แล้ว ก็ไม่ได้ใช้กำลังในการกระทำสิ่งหนึ่งประการใดเลย นอกจากปล่อยทิ้งเอาไว้เฉย ๆ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็จะโดนกิเลสแย่งชิงเอากำลังนั้นไปใช้ ไปฟุ้งซ่านในเรื่องของ รัก โลภ โกรธ หลง

ถ้าหากว่าเป็นอย่างนั้น ก็สร้างความลำบากสาหัสแก่พวกเรา เพราะว่ากำลังของสมาธินั้นย่อมทำให้กิเลสสามารถที่จะฟุ้งซ่านได้อย่างเป็นหลักเป็นฐาน เป็นการเป็นงาน สร้างความทุกข์ยากลำบากให้แก่เราเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่ากิเลสนำเอากำลังสมาธิไปใช้งาน จึงมีกำลังแรงกล้า ฉุดลากเราไปในทางที่ต่ำประการเดียว กว่าที่จะตีคืนมาได้ก็ยากเย็นเข็ญใจเป็นอย่างยิ่ง หลายท่านก็ถึงขนาดท้อใจ เลิกปฏิบัติกรรมฐานไปเลยก็มี..!

บรรดานักปฏิบัติธรรมที่เป็นชาวต่างชาติ ฝรั่งบางท่านก็เอาไปเขียนบอกพรรคพวกตนเองว่า "ถ้าอยากรู้ว่าตนเองมีกามราคะรุนแรงขนาดไหน ให้ไปลองปฏิบัติสมาธิภาวนาดู" แสดงว่าฝรั่งท่านนั้นก็ปฏิบัติผิด เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเมื่อปฏิบัติแล้ว ไม่ได้นำกำลังสมาธิไปใช้งาน จึงโดนรัก โลภ โกรธ หลง ลากไปตามหนทางที่ตนเองเคยชอบและเคยชิน ในเมื่อหนักไปทางกามราคะ ถึงเวลาก็จะฟุ้งซ่านไปในกามอย่างเป็นหลักเป็นฐาน เป็นงานเป็นการ เราไม่สามารถที่จะตีคืนมาได้ จึงเกิดอาการแบบนั้นขึ้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2023 เมื่อ 09:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 16 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา