ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 31-01-2023, 00:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,451 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๓๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพถวายหนังสือวัดท่าขนุน เป็นที่ระลึกในการเดินทางมาศึกษารูปแบบและแนวทางการปฏิบัติธรรมของวัดท่าขนุนให้แก่หลวงพ่อซูวอน หรือชื่อเต็มก็คือ Professor Suwon Suenim เจ้าอาวาสวัดชอนกยองซา ซึ่งคำนี้ออกเสียงค่อนข้างยาก ภาษาอังกฤษก็คือ Cheon Kyung Sa ท่านมีสาขาอยู่ในยุโรป ๓ สาขาด้วยกัน

หลวงพ่อซูวอนอายุ ๖๕ ปี พรรษา ๔๐ ตำแหน่งวิชาการคือศาสตราจารย์ทางพระพุทธศาสนา กระผม/อาตมภาพเองอายุน้อยกว่าท่าน ๑ ปี พรรษาน้อยกว่าท่าน ๓ พรรษา ตำแหน่งทางวิชาการไม่เคยคิดที่จะขอ แปลว่าเป็นรองท่านในทุกรูปแบบ แต่ว่าหลวงพ่อซูวอนขอกราบในฐานะ "พี่ชายทางธรรม" ซึ่งท่านเองเกรงว่าถ้าใช้ภาษาอังกฤษจะไม่ตรงกับความหมาย จึงพิมพ์เป็นภาษาเกาหลีแล้วใช้กูเกิ้ลทรานสเลตแปลเป็นภาษาไทย บังเอิญกระผม/อาตมภาพเข้าใจความหมายตรงนี้ดี ก็คือลักษณะของสหธรรมิกนั่นเอง เพียงแต่ท่านถือว่าเป็นสหธรรมิกผู้พี่

เนื่องจากว่าการอยู่ร่วมกันมา ๒ คืน ๑ วัน ท่านได้พบได้เห็นอะไรต่อมิอะไรเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกระผม/อาตมภาพไม่ได้รังเกียจที่ท่านเป็นพระภิกษุมหายาน ให้ความเคารพกราบไหว้ตามปกติ แค่นี้ท่านเองก็มั่นใจแล้วว่า เป็นบุคคลที่ควรแก่การเคารพได้ เพราะว่าไม่ถือมานะ แต่ว่าถือธรรมวินัยเป็นใหญ่ คำว่าถือธรรมวินัยในที่นี้ก็คือท่านเป็นพระภิกษุเช่นกัน ในเมื่อท่านมีพรรษามากกว่า กระผม/อาตมภาพก็ต้องกราบไหว้ตามปกติ

ตรงจุดนี้หลายท่านอาจจะบอกว่าท่านเป็นนานาสังวาส ก็คือไม่ใช่เถรวาทแบบเดียวกัน ถือสังฆกรรมต่างกัน ความจริงก็เป็นเช่นนั้น แต่การที่เรามาแยกนิกายกันนั้นเกิดจากความเชื่อ ตลอดจนกระทั่งการปรับเปลี่ยนแนวทางการสอนเพื่อให้เข้ากับบริบทสังคมนั้น ๆ จนกระทั่งกลายเป็นพระพุทธศาสนามหายานขึ้นมา

ส่วนของเราเอง ต่อให้ยึดถือเถรวาทเคร่งครัดเพียงใดก็ตาม ก็อย่าลืมว่ายังมีผู้ที่ปฏิบัติตนไม่สมกับความเป็นพระภิกษุสามเณรในพระพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก ในเมื่อเป็นเช่นนั้นจึงไม่ได้อยู่ที่นิกาย หากแต่ว่าอยู่ที่การปฏิบัติตนต่างหาก ว่าสมควรแก่การเป็นศากยบุตรพุทธชิโนรสหรือไม่ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 31-01-2023 เมื่อ 22:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา