ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 13-02-2023, 00:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,661
ได้ให้อนุโมทนา: 151,997
ได้รับอนุโมทนา 4,416,282 ครั้ง ใน 34,251 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องของการเรียนบาลีนี่ ต้องบอกว่าเป็นกำลัง เป็นแรงใจแก่คนรุ่นหลังที่ดีมาก ตัวอย่างชัดเจนที่สุดก็คือพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต ป.ธ ๙) วัดญาณเวศกวัน ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ เป็นนาคหลวง สอบเปรียญธรรม ๙ ประโยคได้ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร

องค์ท่านมีชาติภูมิอยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นแรงบันดาลใจให้กับญาติโยมท่านหนึ่ง ก็คือโยมบิดาของสามเณรประยูร มีฤกษ์ ตั้งใจให้ลูกชายบวชสามเณร เพื่อจะให้เรียนบาลีจนได้ประโยค ๙ แล้วบวชเป็นนาคหลวงบ้าง แล้วสามเณรประยูร มีฤกษ์ ก็ทำได้อย่างที่พ่อต้องการจริง ๆ..!

เราจะสังเกตได้ว่า ไม่เพียงแต่ความประพฤติปฏิบัติในด้านการศึกษา ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์จะเป็นตัวอย่างเท่านั้น แม้กระทั่งนามคือประยุทธ์ โยมก็ยังเอาไปตั้งชื่อลูกชายว่าประยูร ใกล้เคียงกันอย่างยิ่ง ด้วยความหวังว่าจะสามารถทำได้อย่างที่ท่านเจ้าประคุณฯ ทำบ้าง

ปัจจุบันนี้สามเณรประยูร มีฤกษ์ ก็คือพระพรหมบัณฑิต, ศ.ดร. องค์อุปนายกสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ท่านดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยมา ๒๐ ปี สร้างความเจริญอย่างมหาศาลให้กับการศึกษาคณะสงฆ์ แล้วก็ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อที่จะมาเป็นประธานฝ่ายเผยแผ่พระพุทธศาสนาของคณะสงฆ์ไทย

ดังนั้น..เรื่องของบาลี ถ้าหากว่าเป็นไปได้พวกท่านก็ควรที่จะเรียนกันเอาไว้บ้าง ไม่ต้องหวังสอบเอาประโยคก็ได้ ขอเพียงแต่ถึงเวลาสวดมนต์ไหว้พระแล้วรู้ว่าคำนี้แปลว่าอะไร ? คำนี้มีรากศัพท์มาจากไหน ? สมาสหรือสนธิเข้าด้วยกันจากศัพท์อะไรกับอะไร ? แค่นี้ก็น่าจะทำให้เรามีความเข้าใจอะไรหลายอย่างลึกซึ้งขึ้นไปอีก

เพียงแต่ว่าอย่าอยู่ในลักษณะเรียนแล้วหยิ่ง ก็คือเรียนแล้วต้องรู้ตัวอยู่เสมอว่าเราเรียนเพื่ออะไร ไม่ใช่พอมีความรู้มาก ได้ประโยคสูงแล้วก็เหลิง จนกระทั่งกลายเป็นคนจมไม่ลง ถ้าอย่างนั้นแล้วก็จะเป็นอลคัททูปมปริยัติ เรียนแบบจับงูข้างหาง เผลอเมื่อไรก็จะโดนงูกัด บาดเจ็บล้มตายไปเอง..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2023 เมื่อ 02:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา