อันดับแรกเลย ต้องพยายามทรงฌานสมาบัติให้ได้ จะเอาอย่างปลอดภัยก็ฌาน ๔ คล่องตัวไปเลย หรือเอาอย่างที่พอจะไต่ขอบเหวไปได้ ก็ต้องได้สักปฐมฌานละเอียด
ข้อที่สองก็คือ ทบทวนศีลทุกข้อของเราให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงให้คนอื่นละเมิดศีล ไม่ยินดีเมื่อเห็นคนอื่นละเมิดศีล
ท้ายที่สุด ใช้ปัญญาว่าเราจะต้องตายแน่นอน ดังนั้น..ถ้าหากว่าตายแล้ว เราขอไปพระนิพพานที่เดียว
กำลังใจของเราแต่ละวันให้อยู่กับการภาวนา อยู่กับลมหายใจเข้าออก ก็คืออยู่กับปัจจุบันตรงหน้า อยู่กับตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น อดีตก็ไม่มี อนาคตก็ไม่มี ความฟุ้งซ่านทั้งหลายก็จะโดนระงับดับลงไปได้ ถ้าสามารถระงับดับลงได้ชั่วคราว ก็มีความสุขชั่วคราว ถ้าสามารถระงับดับลงได้ถาวร ก็มีความสุขถาวร ก็ขึ้นอยู่กับท่านทั้งหลายว่าจะพยายามและประสบความสำเร็จกันสักเท่าไร
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2023 เมื่อ 02:29
|