ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 24-02-2023, 00:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,983 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๖ เมื่อครู่ที่เห็นมากันวุ่นวายก็คือพรรคพวกเพื่อนฝูงที่เรียนมาด้วยกัน ตั้งแต่สมัยประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ ปริญญาตรี ปริญญาโท เช่น พระครูโกศลธรรมรัตน์ (ประพันธ์ จิตฺตกโร) เจ้าอาวาสวัดวังน้ำเขียว รองเจ้าคณะอำเภอกำแพงแสน

พระครูปิยธรรมพิมล (สมควร ปิยํกุโร) เจ้าอาวาสวัดบางปลา รองเจ้าคณะอำเภอบางเลน

พระครูวิสุทธิ์ธีรคุณ (ธีระ จิตฺตวิสุทฺธิ) เจ้าอาวาสวัดห้วยม่วง ต้องบอกว่าพรรคพวกไม่ได้รู้ข่าวว่ากระผม/อาตมภาพป่วย แต่ว่าไปซื้อหาเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่สังขละบุรี ขากลับก็แวะมาเยี่ยมเยือนกันตามประสาคนที่คุ้นเคย

คราวนี้จากระยะเวลาประมาณหนึ่งอาทิตย์ที่ไม่ได้บันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เห็นพระภิกษุสามเณร แม่ชี ฆราวาสของเราแล้วบางทีก็กลุ้มใจ คือระยะเวลาที่ว่างเว้นจากเสียงธรรม ควรจะเป็นเวลาที่เราเร่งรัดตนเองให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าบรรดาข้อธรรมต่าง ๆ นั้น ถ้าส่วนไหนสะดุดใจของเราแล้วนำไปใช้งานได้ ก็แปลว่ากำลังใจของเราพร้อมที่จะรับเอาข้อธรรมตรงจุดนั้นมาเป็นสมบัติของตนเอง ก็มีแต่ต้องรีบเร่งในการที่จะกอบโกยเอามาให้ได้

แต่ว่าท่านทั้งหลายกลับมาตั้งหน้าตั้งตารอคอยว่า เมื่อไรจะมีเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนใหม่ ซึ่งเป็นการวางกำลังใจที่ผิด ถ้าเป็นเด็กสมัยนี้ที่ซื้อหนังสือก็จะบอกว่า "กองดอง" ก็คือกองเอาไว้ ดองเอาไว้ก่อน ไม่มีโอกาสได้ใช้งาน แล้วรับของใหม่เข้าไปจะมีประโยชน์อะไร ? ในเมื่อของเก่าไม่ทันที่จะเคี้ยว ยังไม่ทันที่จะกลืน ยังไม่ทันที่จะย่อยสลายให้เป็นประโยชน์แก่ตัวเอง รับเอาของใหม่เข้าไปก็ล้นเกินเสียเปล่า ๆ

ดังนั้น..พระภิกษุสามเณร แม่ชี ตลอดจนกระทั่งฆราวาสในปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่แล้วจึงเป็นเพียงผู้ศึกษาธรรมเท่านั้น แถมศึกษาแล้วยังแบกเอากิเลสไปอวดชาวบ้านเขาอีก ก็คือคิดว่าตนเองนั้นรู้มาก เข้าใจหลักธรรมได้มาก แต่เป็นการศึกษาในลักษณะของปริยัติ คือเรียนรู้เท่านั้น ไม่ได้นำไปปฏิบัติจนกระทั่งเกิดผล แล้วก่อให้เกิดปฏิเวธ คือการใช้ผลให้เป็นประโยชน์แก่ตนและผู้อื่นอย่างแท้จริง

ตรงจุดนี้เป็นจุดที่พวกเราทุกคนสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องแก้ไข ท่านทั้งหลายที่อยู่กันมาเก่า ๆ อาจจะเคยได้ยินกระผม/อาตมภาพบอกกล่าวไปหลายครั้งแล้วว่า สมัยที่อยู่กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ที่วัดท่าซุง กระผม/อาตมภาพฟังสิ่งที่ท่านสอนเป็นคำสั่ง ก็คือท่านสั่งให้ทำ เราต้องทำตาม ไม่ใช่ฟังเป็นคำสอนเหมือนกับคนอื่นเขา ถ้าเราฟังเป็นคำสอนก็คือจะทำเมื่อไรก็ได้ แล้วแถมยังแบกกิเลสใส่หัวไปอีกว่าเรารู้มาก ฟังหลวงพ่อมามากแล้ว แทนที่จะลดกิเลสลง ก็กลายเป็นเพิ่มกิเลสมากขึ้น..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-02-2023 เมื่อ 03:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา