ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 05-03-2023, 00:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,479 ครั้ง ใน 34,255 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนคนอื่น แม้ว่าจะเร็วกว่าเราแค่ก้าวเดียว แต่ว่าเขานั่งลงเจริญพระกรรมฐาน อย่างน้อยช่วงที่กระผม/อาตมภาพนำอยู่ ก็ยังระลึกถึงพุทธานุสติได้ อานิสงส์ยิ่งใหญ่มหาศาล ถ้ายิ่งสามารถทำให้ต่อเนื่องได้ ก็เหมือนอย่างกับน้ำสะอาดจำนวนมากที่เทลงไปในแหล่งน้ำสกปรก ก็ย่อมเจือจางความสกปรกนั้นให้ลดลงไป ถ้าได้ทำบ่อย ๆ อย่างสม่ำเสมอ ท้ายที่สุด น้ำสะอาดมีมากกว่า ก็ท่วมทับความสกปรกจนกลืนหายไป

ก็แปลว่า ในเรื่องของการสร้างบุญนั้นไม่ได้ลบล้างกรรม แต่อาศัยกำลังบุญที่มีมากกกว่า ทำให้กรรมนั้นส่งผลไม่ได้ ชีวิตเราก็จะมีแต่ความสุขความเจริญ ถ้าหากว่ากำลังใจของเรามั่นคง ชีวิตในโลกหน้า คือชาติต่อ ๆ ไปก็มีความสุขความเจริญต่อไปด้วย หรือถ้าหากว่าสามารถที่จะปล่อยวาง ปลดกำลังใจออกจากการยึดเกาะทั้งปวง เราก็มีโอกาสที่จะหลุดพ้นเข้าพระนิพพาน

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงได้ตรัสไว้ในมหาปรินิพพานสูตร เป็นปัจฉิมโอวาท คำสอนครั้งสุดท้ายว่า วะยะธัมมา สังขารา สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถะ ขอให้ทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม

แต่ปรากฏว่าเท่าที่สังเกตดู พวกเราถึงพร้อมด้วยความประมาท รอจนกระทั่งวัดจัดการปฏิบัติธรรมทีหนึ่งค่อยมา แถมยังมาแล้วก็ไม่ได้ทุ่มเทอีกต่างหาก ทำตัวเอ้อระเหยลอยชายไปวัน ๆ ไม่ได้คิดที่จะเอาดีอย่างแท้จริง ยิ่งพระภิกษุสามเณรบวชเข้ามาแล้วทำตัวเหมือนปลาตายลอยน้ำ คิดว่าปฏิบัติในคันถธุระ ก็คือศึกษาเล่าเรียนและหน้าที่ของตนแล้ว ก็ถือว่าบวชมาเป็นพระที่ดี ขอให้เข้าใจว่าเป็นความคิดที่ผิดอย่างแรง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-03-2023 เมื่อ 03:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 23 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา