วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ เป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ วันมาฆบูชา เนื่องจากว่าปีนี้มีเดือน ๘ สองหน วันมาฆบูชาจึงเลื่อนมาเป็นกลางเดือน ๔
ทางวัดท่าขนุนของเราก็มีการฟังเทศน์ฟังธรรมตามปกติ แต่ว่าส่วนที่มีมากกว่าวัดทั่วไปก็คือ เราจะมีการอุปสมบทหมู่เพื่อปฏิบัติธรรมในวันมาฆบูชานี้ทุกปี เป็นการอุปสมบทหมู่ฟรี ไม่เก็บค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ว่าผู้ที่เป็นนาคนั้น จะต้องขานนาคและปฏิบัติตามขั้นตอนในการอุปสมบทได้อย่างคล่องตัว
ปีนี้มีผู้สมัครอุปสมบทหมู่เพื่อปฏิบัติธรรมในสัปดาห์มาฆบูชานี้มาทั้งสิ้น ๑๒ ราย แต่ว่าผ่านการคัดตัวแค่ ๑๑ รายเท่านั้น อีก ๑ รายไม่มีความคล่องตัวจึงต้องให้กลับบ้านไปก่อน ถ้าหากว่าซักซ้อมจนคล่องตัวแล้ว ก็จะมีการอุปสมบทหมู่เพื่อปฏิบัติธรรมในสัปดาห์วันวิสาขบูชาซึ่งรออยู่ข้างหน้า
อีกงานหนึ่งที่ทางวัดท่าขนุนของเราทำแล้วได้รับการยกขึ้นเป็น Unseen Thailand ก็คือการตามประทีป ๑๐,๐๐๐ ดวง เป็นพุทธบูชา ซึ่งพัฒนามาจากในระยะแรกที่ใช้ขวดเครื่องดื่มชูกำลัง ควั่นไส้ด้วยผ้าจีวรเก่า บรรจุน้ำมันก๊าดแล้วจุดถวายเป็นพุทธบูชา เริ่มมาจากพระครูน้อย (พระครูสังฆรักษ์วิฑูรย์ จนฺทวํโส) อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ปัจจุบันคือเจ้าอาวาสวัดหนองบัว เมืองจะอีน ประเทศพม่า
เมื่อเริ่มต้นขึ้นมาแล้ว กระผม/อาตมภาพเห็นว่าเป็นการสิ้นเปลืองอย่างมาก จึงได้สั่งให้เอาผางประทีปทางด้านจังหวัดเชียงใหม่ลงมา แต่ปรากฏว่าผางประทีปจากจังหวัดเชียงใหม่นั้น จุดได้แค่ ๑๐ กว่านาที ไส้ก็ล้ม ไม่สามารถที่จะติดต่อไปได้ ทางวัดจึงมีการคิดค้นว่า ทำอย่างไรที่เรามีการตามประทีปเป็นพุทธบูชาแล้ว จะสามารถอยู่ได้หลายชั่วโมง ?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-03-2023 เมื่อ 03:03
|