หลังจากนั้นก็ให้ตัวแทนของแต่ละจังหวัด ก็คือจังหวัดละหนึ่งราย ตั้งแต่จังหวัดนครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และสมุทรสาคร ได้กล่าวเปิดใจ ซึ่งสร้างความสนุกสนานเฮฮาให้กับทุกคนเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าหลายต่อหลายท่าน เวลาอยู่วัดก็เจอแต่ญาติโยมมากวนเช้ายันเย็น เมื่อได้รับคำสั่งให้มาปฏิบัติธรรม ก็รีบเก็บข้าวของเผ่นมาโดยด่วนจี๋ ให้ความร่วมมือกับเจ้าคณะปกครองเป็นอย่างดียิ่ง แต่ความจริงก็คือหนีมาพักผ่อนนั่นเอง..!
ตรงส่วนนี้กระผม/อาตมภาพในสมัยที่เรียนหนังสืออยู่ ไม่ว่าจะเป็นระดับประกาศนียบัตร ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอกก็ตาม เวลาแห่งการเรียนหนังสือก็คือเวลาแห่งการพักผ่อน ไม่ต้องไปสนใจเรื่องงานบริหารใด ๆ ทั้งสิ้น ถือว่าการเรียนการสอนนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด พ้นจากการเรียนการสอนไปแล้ว ถึงจะไปสนใจในเรื่องงานอื่น ๆ ที่ขำก็เพราะว่า เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมหลายท่านถือว่า การปฏิบัติธรรม ๗ วันนี้เป็นการพักผ่อนบ้าง เป็นการฟื้นฟูกำลังของตนเองบ้าง เป็นการมาหาความรู้เพิ่มเติมบ้าง
ตัวแทนจากสุพรรณบุรีบอกว่า "กระผมพยายามที่จะตื่นให้ทันหลวงพ่อเล็ก แต่ไม่เคยตื่นได้ทันแม้แต่วันเดียว เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเวลาอยู่วัดก็ไม่ง่วง แต่พอมาอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรม ทำไมถึงได้ง่วงนักก็ไม่รู้ ?" กระผม/อาตมภาพจึงได้ชี้แจงไปว่า เวลาอยู่วัดท่านมีเวลาพักผ่อนเป็นการส่วนตัว แต่ว่าเมื่อมาอยู่ในศูนย์ปฏิบัติธรรม เราต้องตื่นตั้งแต่ตี ๓ ครึ่ง กว่าจะได้นอนก็ ๓ ทุ่มบ้าง ๓ ทุ่มครึ่งบ้างทุกวัน เมื่อหลายวันเข้า ร่างกายเหนื่อยล้า ก็ไม่สามารถที่จะบังคับให้ตื่นได้อย่างใจ
ส่วนกระผม/อาตมภาพเองนั้นไม่ได้ใช้นาฬิกาปลุกมาตั้งแต่พรรษาที่ ๓ หรือพรรษาที่ ๕ แล้ว เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าในช่วงระหว่างพรรษาที่ ๓ ที่ ๔ ที่ ๕ นั้นยังต้องมีนาฬิกาปลุกอยู่ "เผื่อเหนียว" แต่ว่าหลังจากนั้นแล้ว มั่นใจว่าสามารถกำหนดจิตให้ตื่นตามเวลาที่ต้องการได้ ก็เป็นอันว่าเลิกใช้นาฬิกาปลุกมาจนบัดนี้
ดังนั้น..การที่ตื่นเช้านั้นไม่ได้ตื่นเพราะว่าเป็นคนแก่ หากแต่ว่าตื่นในระยะเวลานี้มาตั้งแต่สมัยหนุ่ม ๆ แล้ว เพื่อที่จะเร่งรัดปฏิบัติธรรมของตนเองให้ก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป จึงต้องสละเวลานอนของตนเองให้เหลือน้อยลง เพื่อที่จะได้ปฏิบัติธรรมให้มากขึ้น
เมื่อเปิดใจเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องรองรับบรรดาญาติโยมทั้งหลาย ที่ไหลมาเทมาเพื่อเป็นเจ้าภาพเลี้ยงส่งในวันนี้ แม้กระทั่งท่านอาจาย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี และน้องขวัญ (ขวัญข้าว ธิดารินทร์) นักร้องคู่ใจของท่านอาจาย์ธนิสร์ ก็มาร่วมเป็นเจ้าภาพถวายเพลเป็นวันที่สามแล้ว
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-03-2023 เมื่อ 16:21
|