ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 25-03-2023, 00:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ว่าในส่วนที่ได้ท้วงติงทางคณะกรรมการไปก็คือว่า การที่เราถึงขนาดจะไปกำหนดว่า "ญาติโยมจะต้องทำอาหารอย่างนั้นอย่างนี้มาถวาย เพื่อสุขภาพของพระสงฆ์นั้น น่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาในทางที่ผิด..!"

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าอันดับแรกเลยก็คือ ญาติโยมเขามีอย่างไรก็ถวายพระอย่างนั้น ขนาดมีพระภิกษุในสมัยพุทธกาลขอให้พระภิกษุสงฆ์ทั้งหมดฉันเจ หรือมังสวิรัติ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังไม่ทรงอนุญาต เพราะว่าจะสร้างความลำบากให้แก่ญาติโยมเขา ที่ต้องทำอาหารเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเป็นมังสวิรัติเพื่อถวายพระภิกษุสงฆ์ อีกส่วนหนึ่งก็เป็นอาหารปกติสำหรับตนเองและครอบครัว ซึ่งจะสร้างความยากลำบากให้แก่ญาติโยมมาก

อีกส่วนหนึ่งที่กระผม/อาตมภาพได้ท้วงติงไปก็คือว่า พระสงฆ์ของเรานั้นต้องปฏิบัติตามหลักโภชเนมัตตัญญุตาในอปัณณกปฏิปทา ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากำหนดไว้อยู่แล้ว ถ้าหากว่าเรารู้จักฉันแต่พอดี เพียงพอที่จะดำรงธาตุขันธ์นี้ไว้เพื่อปฏิบัติธรรมเท่านั้น เราก็จะไม่เกิดอาการฉันล้น ฉันเกิน จนก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน ความดัน ไขมันในเส้นเลือด เหล่านี้เป็นต้น

ดังนั้น..ถ้าหากว่าเรารู้จักประมาณในการขบฉันแล้ว มีการออกกำลัง อย่างเช่นว่ากระผม/อาตมภาพก็เดินบิณฑบาตวันละ ๕ กิโลเมตร พระภิกษุสงฆ์สามเณรวัดท่าขนุน ก็มีการร่วมกันทำความสะอาด ปัดกวาดเช็ดถูวัดวันละ ๒ รอบ เช้า - เย็น เป็นต้น ในลักษณะอย่างนี้เราเองเท่ากับได้ออกกำลังอย่างหนัก ๆ อยู่ทุกวัน สุขภาพร่างกายก็ย่อมจะดีโดยอัตโนมัติ

แต่ขณะเดียวกัน ส่วนที่อยากให้มีก็คือว่า ให้มีการประสานกับคณะอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านก็ดี โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลก็ดี โรงพยาบาลประจำอำเภอก็ตาม ถ้าหากว่ามีการประสานกัน อยู่ในลักษณะทำโครงการเพื่อสุขภาพพระสงฆ์ ทำการตรวจสุขภาพประจำปีสักปีละ ๑ ครั้ง หรือว่าถ้าหากว่าเหมาะสมก็ปีละ ๒ ครั้ง ก็จะได้รู้ว่าพระภิกษุสามเณรท่านใด อยู่ในภาวะการสุ่มเสี่ยงต่อการที่จะเป็นคนป่วยด้วยโรคที่ปราศจากเชื้อ

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ถ้าหากว่าเราประสานงานดี ๆ ก็เท่ากับว่า โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลก็ดี โรงพยาบาลประจำอำเภอก็ตาม ได้ทำโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนด้วย ส่วนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เขาทั้งหลายเหล่านั้นมีหน้าที่จะต้องดูแลทุกคน แม้กระทั่งพระภิกษุสามเณรอยู่แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-03-2023 เมื่อ 19:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา