ถาม : ท่านที่จะเข้านิโรธสมาบัติได้นั้น ต้องเป็นอย่างไรคะ ?
ตอบ : ถ้าเป็นพระอนาคามีสุขวิปัสสโก เตวิชโช ฉฬภิญญโญ เข้านิโรธสมาบัติไม่ได้ ได้เฉพาะผลสมาบัติ ผู้ที่เข้านิโรธสมาบัติได้ต้องเป็นพระอนาคามีปฏิสัมภิทาญาณขึ้นไปเท่านั้น เพราะต้องใช้ผลจากเนวสัญญานาสัญญายตนฌาน จึงจำเป็นต้องได้สมาบัติ ๘ มาก่อน
ถาม : ท่านที่ได้นิโรธสมาบัติ จะเข้าเป็นปกติหรือไม่คะ ?
ตอบ : ท่านที่ได้นิโรธสมาบัติ ท่านจะใช้เป็นปกติ นิดหน่อยก็เอา เพียงชั่วครู่นี่ท่านทำแน่ เพราะช่วยให้พักเหนื่อยได้ดี ที่กำหนดเวลา ๗ วัน ๑๕ วัน นั้น เป็นการเข้าเพื่อสงเคราะห์ผู้อื่นโดยตรง จึงต้องใช้เวลามาก เพื่อผลแห่งอานิสงส์จะได้ตอบแทนแบบทันตาเห็น
ถาม : ฌานสมาบัติกับผลสมาบัติ ต่างกันอย่างไรคะ ?
ตอบ : ฌานสมาบัติ เป็นผลจากการเข้าฌานของปุถุชน(ฌานลาภีบุคคล)ทั่วไป ผลสมาบัติเป็นผลจากการเข้าฌานของพระอริยเจ้าตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป
ถาม : พระอริยเจ้าท่านเข้าผลสมาบัติเป็นปกติหรือไม่คะ ?
ตอบ : พระอริยเจ้าท่านเข้าผลสมาบัติเป็นปกติ แม้แต่พระอริยเจ้าที่ท่านเป็นสุขวิปัสสโก ก็ต้องพิจารณาวิปัสสนาญาณ จนเข้าถึงฌานสมาบัติตั้งแต่ปฐมฌานขึ้นไป จึงมีกำลังพอที่จะตัดกิเลสได้ เมื่อท่านพิจารณาวิปัสสนาญาณจึงเท่ากับเข้าผลสมาบัติไปด้วย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-09-2014 เมื่อ 08:39
|