วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพไปหาหมอผ่าตัดมา ภาษาหมอเขาเรียกว่า "โออาร์เล็ก" เป็นการผ่าตัดแบบไม่ต้องวางยาสลบ เนื่องจากว่าไม่ใช่บาดแผลที่ใหญ่นัก แต่ว่าดูจากที่หมอเย็บมา ๔ - ๕ เข็มแล้ว ก็ยังสงสัยอยู่เหมือนกันว่าไม่ใหญ่หรือวะ ? เกิดจากบาดแผลที่เหยียบพลาด แล้วไปกระแทกหินเป็นรอยช้ำเล็ก ๆ ประมาณปลายนิ้วเท่านั้น แต่ว่าระยะประมาณ ๒ - ๓ อาทิตย์ที่ผ่านมา มีอาการแข็งเป็นก้อนขึ้นมา เดินแล้วเจ็บ จึงตั้งใจว่าจะผ่าเอง..!
แต่ก็นึกขึ้นมาได้ว่าเรามีโรงพยาบาลทั้งโรงอยู่ในมือ ก็เลยถามหมอนุ้ย (แพทย์หญิงนวลจันทร์ เวชสุวรรณมณี) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทองผาภูมิดู ว่าควรจะทำอย่างไร ? ปรากฏว่าหมอนุ้ยนอกจากมาด้วยตัวเองแล้ว ยังพาหมอมาอีก ๒ คน แล้วก็ลงความเห็นว่าอย่าผ่าเอง เพราะว่าตรงกับเส้นเลือดพอดี ถ้าหากว่าห้ามเลือดไม่อยู่จะเป็นปัญหาใหญ่ จึงต้องไปผ่าที่โรงพยาบาล
นี่ก็เปลี่ยนผ้าปิดแผลไปสองชุดแล้ว สรุปว่าโรงพยาบาลก็ห้ามเลือดไม่อยู่เหมือนกัน มีบางท่านสงสัยว่าผ่ามาแล้วหรือยัง ? เพราะเห็นหลวงพ่อเดินตัวปลิวเลย ผ่ามาแล้ว..เพียงแต่ไม่ได้ยกฝ่าเท้าให้ดูเท่านั้น เพราะไม่ค่อยจะสุภาพนัก ยกเว้นว่าจะถีบใคร..!
ในเรื่องของร่างกายของเรา กระผม/อาตมภาพยืนยันว่า สิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้เป็นจริงทุกประการ
ประการแรกคือ ร่างกายนี้ไม่ใช่ของเรา เป็นเพียงธาตุ ๔ ดิน น้ำ ไฟ ลม ประกอบขึ้นมาให้เราอาศัยอยู่ชั่วคราว กระผม/อาตมภาพก็เลยถือคติว่า ในเมื่อไม่ใช่ของเรา เราก็ต้องบังคับร่างกาย ไม่ใช่ให้ร่างกายมาบังคับเรา
ประการที่สองคือการปฏิบัติกรรมฐาน โดยเฉพาะอานาปานสติ สามารถระงับกายสังขารได้ คำว่าระงับกายสังขารในที่นี้ สรุปเป็นภาษาไทยง่าย ๆ ว่า ตัดความรู้สึกจากร่างกายไปได้
หลายท่านก็มีประสบการณ์ว่า เวลาเราปฏิบัติธรรม เหมือนอย่างกับโลกโดนตัดหายไปเฉย ๆ ภาพก็ไม่เห็น เสียงก็ไม่ได้ยิน ไม่ต้องไปพูดถึงจมูกได้กลิ่น ลิ้นได้รส กายสัมผัส เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า สภาพจิตกับร่างกายแยกออกเป็นคนละส่วนกัน ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จิตไม่ไปรับรู้อาการทางร่างกาย ร่างกายอยากจะเป็นอะไรก็เป็นไป..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-04-2023 เมื่อ 03:19
|