ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 05-04-2023, 00:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,978
ได้รับอนุโมทนา 4,416,255 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่างหลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์ ท่านนั่งตากแดดร้อนเปรี้ยง ๆ อยู่เป็นเดือน ๆ จนหนังลอกเป็นแผ่น ๆ ก็ไม่เห็นท่านเป็นอะไร ก็คือร้อนก็ทำเป็นไม่ร้อน หนาวก็ทำเป็นไม่หนาว หิวก็ทำเป็นไม่หิว เป็นอาการที่กำลังจิตมีสภาพเหนือกว่าร่างกาย ความจริงตั้งแต่ปฐมฌานขึ้นไป ก็มีสภาพที่เหนือกว่าร่างกายแล้ว แต่ว่าไม่มาก ถ้าจะเอาระดับสูงสุด ก็ต้องถึงสมาบัติที่ ๘ หรืออรูปฌานที่ ๔

แล้วอรูปฌานเป็นเรื่องที่แปลกมาก ไม่ว่าจะเป็นอรูปฌานที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ กำลังก็คือรูปฌาน ๔ ทั้งหมด เพียงแต่ว่ากำหนดภาพกสิณขึ้นมาแล้วทิ้ง หรือที่ภาษาโบราณเรียกว่า "เพิกภาพนั้นเสีย" แล้วก็ไปจับความว่างของอากาศบ้าง จับความไม่มีขอบเขตของวิญญาณบ้าง จับความไม่เหลืออะไรแม้แต่น้อยหนึ่งเลยบ้าง จนกระทั่งท้ายสุด รู้สึกก็ทำเป็นไม่รู้สึกบ้าง

ในเรื่องของสมาธิทั่ว ๆ ไป ถ้าท่านทั้งหลายมีของเก่าอยู่ สามารถที่จะกระโดดข้ามขั้นได้ บางท่านตั้งใจภาวนาเอาแค่ปฐมฌาน อาจจะไปถึงฌาน ๔ โดยไม่รู้ตัว เพราะว่ามีความชำนาญในชาติก่อน ๆ มาด้วย แต่อรูปฌานนั้นอย่างไรก็ต้องไปตามลำดับ

เพราะว่าอากาสานัญจายตนฌานนั้น จับความว่างไม่มีขอบเขตของอากาศ พอขยับไปอรูปฌานที่ ๒ คือวิญญานัญจายตนฌานนั้น จะกำหนดความรู้สึกว่า ถึงแม้อากาศนี้จะว่างอยู่ แต่เรายังสามารถใช้ความรู้สึกคือวิญญาณ กำหนดขอบเขตนั้นได้ จึงไปจับความกว้างไม่มีขอบเขตของวิญญาณแทน

เมื่อก้าวเข้าไปถึงอากิญจัญญายตนฌาน อรูปฌานที่ ๓ ก็เพิ่มความรู้สึกเข้าไปว่า แม้ความรู้สึกของเราจะไม่มีขอบเขต แต่จิตนี้ก็ยังมีการหน่วงยึดอยู่ ก็คือเราต้องยึดความรู้สึกที่ว่าไม่มีขอบเขตนั้น ก็จะปล่อยวางการยึดลง กลายเป็นว่าอะไรแม้แต่น้อยหนึ่งก็ไม่ยึดเอาไว้ เมื่อมาถึงตรงจุดนี้แล้ว ถึงจะรู้สึกทำเป็นไม่รู้สึกได้ ก็คือเนวสัญญานาสัญญายตนฌาน อรูปฌานที่ ๔ ฟัง ๆ เอาไว้ก่อน เผื่อใครมีโอกาสทำได้บ้าง..!

สมัยที่กระผม/อาตมภาพอยู่ที่เกาะพระฤๅษี มีต้นไม้อยู่ต้นหนึ่ง เขาเรียกว่าประดู่เลือด หรือว่าประดู่ส้ม พอแตกใบอ่อนเมื่อไรจะมีผีเสื้อมาวางไข่ แล้วออกมาเป็นหนอนคัน ได้เกาคะเยอกันทุกปี เพราะว่าต้นไม้สูงใหญ่มาก ถึงเวลาขนของหนอนปลิวไปถึงไหนก็คันถึงที่นั่น โดยเฉพาะคุณจิรา ลิ่วเฉลิมวงศ์ นามสกุลนี้ท่านทั้งหลายอาจจะคุ้น เพราะว่าน้องแบม (จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์) ก็เป็นดาราที่มีชื่อเสียงอยู่ เป็นลูกหลานของเขาเอง มาอยู่ปฏิบัติธรรมแล้วปรากฏว่าแพ้ขนบุ้ง คอบวม หายใจไม่ออก เกือบตาย กระผม/อาตมภาพก็เลยตัดสินใจว่าจะต้องตัดต้นประดู่นี้ทิ้งไปเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-04-2023 เมื่อ 03:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา