ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 25-04-2023, 00:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,975 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ พรุ่งนี้กับมะรืนนี้ กระผม/อาตมภาพมีภารกิจนอกวัด ๒ วัน หลังจากนั้นก็จะเดินทางไปประเทศอินเดีย กว่าจะกลับมา รวมหัวท้ายก็น่าจะประมาณ ๑๐ วัน คราวนี้ในช่วงที่พวกเราอยู่กันทางด้านนี้ กิจกรรมหน้าที่อะไรต่าง ๆ ก็ให้ทำกันไปตามปกติ เพียงแต่ว่าแบ่งคนมาทำความสะอาดทางด้านกุฏิสำนักงานของกระผม/อาตมภาพบ้าง

ในส่วนของการเดินทางนั้น โดยปกติแล้ว กระผม/อาตมภาพไม่ใช่คนนิยมการเดินทาง เพราะเห็นโทษมาตั้งแต่สมัยเป็นพระใหม่ ว่าการเดินทางแต่ละครั้ง สิ่งที่สภาพจิตของเรารับเข้าไป ถ้าจัดการไม่เป็นจะทำให้เราฟุ้งซ่านไปนาน กลับวัดมาแล้วก็ยังคิดถึง อยากที่จะไปอีก อยากจะทำอย่างนั้นอีก หลายต่อหลายครั้งก็เตือนให้ท่านทั้งหลายที่ลาบ่อย ๆ ว่า ให้ระวังตรงนี้ไว้ด้วย เพราะว่าสำหรับนักปฏิบัติแล้ว ผลเสียมีมากกว่าผลดี

เพราะว่าทันทีที่เราหลุดออกจากระบบ ซึ่งก็คือระเบียบวัดของเรา ว่าในแต่ละวันเราจะต้องทำอะไรบ้าง ขั้นตอนต่าง ๆ เหล่านี้ก็คือการเสริมสร้างบุญกุศลใน ศีล สมาธิ ปัญญา ของเรา พอหลุดกรอบออกไปแล้ว ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายเผลอก็จะลืม ไม่ได้ปฏิบัติตาม แล้วส่วนใหญ่ก็เหมือนกับตั้งใจลืม..!

เหตุที่เป็นเช่นนั้นอาจจะเป็นเพราะรู้สึกว่า เราเครียดกับระเบียบมานานแล้ว พ้นจากสภาพในวัดไปได้ก็ปล่อยตามสบาย โดยที่ไม่รู้ตัวว่าเรากำลังปล่อยตัวให้ไปตาย..! เนื่องเพราะว่าเวลากิเลสกำเริบ ตีกลับมาแล้ว เราจะเอาคืนได้ยากมาก ทุกคนที่เคยประสบภาวะจิตตก สมาธิตก กรรมฐานแตก ล้วนแล้วแต่รู้ดีว่า อาการเหมือนกับตกนรกทั้งเป็นนั้นคืออะไร..!!?

แต่ว่าพวกเราทั้งหลาย อันดับแรกเลยก็คือขาดการสังเกต ทำให้ไม่รู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงนั้นเกิดจากอะไร อันดับที่สองคือขาดความระมัดระวัง ประมาท ปล่อยให้สภาพจิตไหลตามกิเลสไปโดยไม่รู้ตัวบ้าง โดยรู้ตัวแต่เต็มใจบ้าง ประการสุดท้ายเลยก็คือ เมื่อเกิดเหตุแล้วจัดการแก้ไขไม่เป็น
มักจะคิดว่าจะต้องเอาคืนมาได้ แล้วก็พากเพียรพยายามที่จะเอาคืน โดยที่ลืมไปว่าสิ่งนั้นคือความฟุ้งซ่าน เมื่อความอยากคือตัณหานำหน้า โอกาสที่จิตจะสงบจึงไม่มี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-04-2023 เมื่อ 02:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา