เมื่อไปถึงบริเวณธารน้ำแข็ง พวกเราก็ลงไปถ่ายรูปจนกระทั่งเป็นที่พอใจ แล้วจึงได้ขี่ม้าย้อนกลับมาทางเดิม แต่ว่าไม่ได้จ่ายค่าเช่าม้าให้กับทางเจ้าของ เพราะได้รับคำเตือนว่าให้จ่ายกับไกด์ท้องถิ่นของเรา ซึ่งช่วงนี้ไกด์ท้องถิ่นคือคุณมุสตาฟา จ่ายแล้วไกด์จะไปเคลียร์กับทางด้านเจ้าของม้าเอง ไม่เช่นนั้นแล้วเคยมีการจ่ายซ้ำจ่ายซ้อนมา และทางเจ้าของม้าก็รับไปหน้าตาเฉย..!
พวกเรากลับเข้ามารอเวลาอยู่ในโรงแรมที่รับประทานอาหารกลางวันก่อนเดินทางไป จนกระทั่งได้เวลาบ่ายสามครึ่งก็นำรถตรงไปยังด่านอีก แต่ทางตำรวจยืนยันขันแข็งว่าให้ย้อนกลับทางเดิมเท่านั้น..! พวกเราตั้งใจจะมาหาที่พักกัน เมื่อโทรศัพท์ติดต่อแล้ว มีโรงแรมที่ห่างจากเมืองโซนามาร์กนี้ประมาณ ๘ กิโลเมตรที่ยังว่างอยู่
แต่ว่าทางด้านผู้ติดต่อประสานงานของเราไม่สิ้นความพยายาม ไปถามเขาอีกรอบหนึ่งว่าจะสามารถเดินทางได้เมื่อไรกันแน่ ? คราวนี้ได้ความจากตำรวจที่เป็นหัวหน้าด่านตรวจว่า น่าจะเปิดให้วิ่งได้ในเวลาประมาณ ๕ โมงเย็น พวกเราจึงทนนั่งตากแดดรอกันอยู่ ยังไม่ทันจะ ๕ โมงเย็น ก็เห็นคนวิ่งกันพึ่บพั่บ แสดงว่าด่านเปิดแล้ว แต่ว่าคนอินเดียก็อยู่ในลักษณะของการแก่งแย่งชิงดี ต่างคนต่างไป ดังนั้น..จึงไปติดกันเป็นอันมากอยู่ทางด้านหน้า เมื่อผ่านไปได้แล้วก็ยังมีการเหยียบแข่งกันไปอีก..!
ระหว่างทางนั้นก็มีทิวทัศน์ภูเขาหิมะงาม ๆ ซึ่งกระผม/อาตมภาพได้ถ่ายรูปส่งให้พวกเราดูกันเป็นระยะไป แต่คาดว่าเมืองในบริเวณนี้นั้นเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เพราะว่ามีเครื่องบินรบบินลาดตระเวนอยู่เป็นระยะ ๆ จึงมีการบล็อกสัญญาณโทรศัพท์เป็นระยะไปเหมือนกัน
เมื่อวิ่งมาได้จนกระทั่งถึงสถานที่แห่งหนึ่ง ปรากฏว่ารถติดกันยาวเหยียดอยู่ที่นี่ เมื่อกระผม/อาตมภาพเดินลงไปดูถึงได้เห็นสิ่งที่น่าตกใจ ก็คือมีหิมะถล่มมาปิดทางจนมิด แต่ที่โชคดีที่สุดก็คือรถของเราทั้ง ๓ คันนั้นอยู่ในบริเวณฝั่งนี้ทั้งหมด เนื่องเพราะว่าคันที่นำหน้านั้น อีกเพียง ๔ คันก็จะวิ่งหลุดไปแล้ว ถ้าหากว่าหลุดล่วงหน้าไปก่อน ก็ไม่สามารถที่จะติดต่อประสานงานกันได้ เหตุเพราะว่าบริเวณนี้นั้นไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ พวกเราจึงพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ลงไปถ่ายรูปบ้าง ถ่ายวิดีโอกันบ้าง รอจนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่นำรถมาเกรดเปิดทางชั่วคราวให้ กว่าจะเสร็จก็ผ่านไปประมาณ ๑ ชั่วโมง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-05-2023 เมื่อ 03:53
|