คนต่อไปที่ต้องกล่าวถึงก็คือป้ามอย (นางสาวมณีวรรณ สัมฤทธิ์) ป้ามอยนั้นอายุเท่ากับกระผม/อาตมภาพพอดี ก็คือเกิดปีเดียวกัน อายุ ๖๔ ปี ย่าง ๖๕ แล้ว ป้ามอยดูรู้สึกว่าสบายที่สุด เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าตอนอยู่วัดนั้น ป้าต้องทำความสะอาดวัด โดยเฉพาะพื้นที่รอยต่อระหว่างสำนักงานเจ้าอาวาสกับแดนสงบทางด้านล่าง ซึ่งเป็นหน้าผาค่อนข้างจะชัน ความสูงประมาณ ๓ เมตรเศษ ป้ามอยจะต้องกวาดบริเวณนั้นจนหมดทุกวัน ทั้งเช้าและเย็น จึงทำให้ร่างกายแข็งแรงเป็นพิเศษ
แต่คนเราเมื่อถึงเวลาก็ต้องโดนจนได้ เวรกรรมไม่ยอมปล่อยให้ผ่านง่าย ๆ เจ้ากรรมนายเวรในประเทศอินเดียจะมากจะน้อยก็ขอเล่นเสียหน่อย ดังนั้น..ในวินาทีสุดท้าย ป้ามอยก็โดน ตม.อินเดียสุ่มตัวไปตรวจ กลายเป็นที่ห่วงใยของพวกเราว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง เนื่องเพราะว่าพาหายเข้าไปเลยโดยที่ไม่สามารถจะติดต่ออะไรกันได้ จนกระทั่งเห็นป้าเดินยิ้มแบบ "ชิลด์ ๆ" ออกมา พวกเราถึงได้ถอนหายใจโล่งอก
ดังนั้น..ไม่ว่าอะไรที่เกิดขึ้นก็ตาม เรื่องเล็กเรื่องน้อยเหล่านี้จะมากวนใจเราอยู่เสมอ สร้างบุญสร้างกุศลมาดีขนาดไหน ท้ายที่สุดก็ต้องมีจังหวะที่วาระกรรม ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กเข้ามาแทรกได้อยู่ดี จึงเป็นเรื่องที่พวกเราทั้งหมดไม่ควรที่จะประมาท อย่างไรเสียก็ต้องระมัดระวังเอาไว้ เพียรพยายามสร้างกุศลใน ทาน ศีล ภาวนา ให้ต่อเนื่อง เมื่อถึงเวลาบุญกุศลส่งผลให้ ความดีก็จะได้เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยที่ความชั่วไม่สามารถที่จะแทรกได้
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-05-2023 เมื่อ 03:52
|