สำหรับวันนี้ เวลาที่เหลือก็ขอกล่าวถึงควันหลงของการเดินทาง "ไปหาที่ตายในชมพูทวีป" เป็นการส่งท้าย สำหรับพระภิกษุสงฆ์ สามเณร แม่ชี หรือฆราวาสที่อยากตามรอยครูบาอาจารย์ ขอยืนยันว่าถ้าสภาพร่างกายไม่ดีพอ อย่าไปเลย จะป่วยตายเสียเปล่า ๆ เพราะว่าอากาศวันแรกที่เดินทางไปถึงสนามบินนานาชาติอินทิราคานธีก็คือ ๓๕ องศาเซลเซียส
เมื่อต่อเครื่องจากสนามบินนานาชาติอินทิราคานธีไปยังสนามบินศรีนาการ์ หรือว่าศรีนครา อุณหภูมิเหลือแค่ ๗ องศาเซลเซียส..! แล้วหลังจากนั้นก็อยู่ในระดับ ๑ องศาเซลเซียสบ้าง ติดลบบ้าง ถ้าร่างกายไม่ดีมีสิทธิ์ป่วยตายเอาง่าย ๆ
ประการที่สองก็คือการเดินทางทางรถยนต์ แต่ละวันเราจะโดนเขย่าไปบนเตาขนมครกประมาณ ๖ - ๘ ชั่วโมงทุกวัน ไม่ใช่เรื่องสนุก ยกเว้นว่ามีความบ้าพอ อยากจะทดลองก็ไม่ว่ากัน ถ้าเที่ยวอย่างคนทั่ว ๆ ไป เขาก็นั่งเครื่องไปลงที่ศรีนาการ์ หรือไปลงที่เลห์เลย ไม่ใช่ไปนั่งรถยนต์เลาะเทือกเขาหิมาลัยอย่างที่คณะของกระผม/อาตมภาพไปทำมา
เรื่องที่สองที่อยากจะตักเตือนก็คือ ถ้าหากว่าไปประเทศอินเดีย อะไรที่เป็นทองคำอย่าได้ติดตัวไปให้ยุ่งยาก เพราะว่าประเทศอินเดียมีความอ่อนไหวในเรื่องทองคำมาก ประเทศเขาเป็นประเทศผู้บริโภคทองคำระดับต้น ๆ ของโลก ถ้าไม่อยากให้ ตม.สอบสวนแล้วสอบสวนอีก ว่าคุณพกมาทำไมเยอะแยะขนาดนี้ ไม่เอาไปได้จะดีที่สุด แล้วพวกวัตถุอื่น ๆ ที่ทำด้วยงาช้างหรือเขาสัตว์ก็ต้องระวังไว้ด้วย เพราะไม่รู้ว่าจะติดบัญชีต้องห้ามของไซเตสหรือเปล่า ?
ส่วนในเรื่องของข้าวปลาอาหาร ถ้าทำใจไม่ได้ว่าจะต้องกินอาหารแขก ก็ให้ทางทัวร์เป็นคนทำหน้าที่ขนอาหารนั้นไป อย่าขนไปเองส่งเดช เพราะว่าหลายต่อหลายประเทศ เรื่องของเนื้อสัตว์และผักผลไม้เป็นของต้องห้าม เขากลัวว่าจะนำเชื้อโรคเข้าไปในประเทศของเขา เอาไปส่งเดช อาจจะติดคุกได้ง่าย ๆ อะไรที่มีปัญหา เลี่ยงได้ให้เลี่ยง ไม่อย่างนั้นแล้วเรามีปัญหาแค่คนเดียว แต่ทั้งคณะก็ต้องเดือดร้อนกันไปหมด..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-05-2023 เมื่อ 02:40
|