ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 17-05-2023, 00:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,416,016 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กรรมฐานที่ได้จากการเคลื่อนไหวนั้นเป็นกรรมฐานที่เสื่อมยาก เพราะว่าปกติแล้วเราต้องนั่งนิ่ง ๆ ในเมื่อเคลื่อนไหวก็ทำได้ ทำให้ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถใด เราก็ภาวนาได้ จึงมีครูบาอาจารย์หลายท่านที่บอกกล่าวอย่างชัดเจนว่า "ถ้าผู้ใดก็ตาม ต้องรอให้นั่งอย่างเป็นงานเป็นการก่อน ใจถึงจะสงบ ยังห่างไกลจากมรรคผลอีกมาก" เพราะว่ากิเลสกินเราทุกเวลา ทุกนาที แต่เราต้องรอให้ไปนั่งอย่างเป็นทางการ ถึงจะเอาชนะกิเลสได้ ซึ่งมีเวลาก็ไม่ได้มาก ก็แปลว่าเราแพ้กิเลสอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากเวลาที่เราทำอย่างอื่นในแต่ละวันนั้นมีมากกว่า

จึงฝากไว้เป็นข้อคิดสำหรับท่านทั้งหลายว่า ลองเอาสติเข้าไปควบคุมในเวลาที่เราทำงานทำการประจำวันของตัวเอง ให้ความรู้สึกอยู่กับลมหายใจเข้าออกและคำภาวนา ส่วนงานอื่นเราก็ทำของเราไปตามปกติ แล้วลองดูว่าต้องใช้เวลานานเท่าไร ? จึงสามารถที่จะรักษาอารมณ์ใจได้ยาวนานตามที่ตนเองต้องการ หรือว่าต้องใช้ระยะเวลานานเท่าไร ? จึงสามารถทรงการภาวนาโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องบังคับก็เป็นไปเอง ถ้าสามารถทำถึงตรงนี้เมื่อไร เราจะเริ่มมีโอกาสชนะกิเลสได้บ้าง

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๑๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-05-2023 เมื่อ 01:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 49 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา