ดูแบบคำตอบเดียว
  #6  
เก่า 03-06-2023, 23:41
หยาดฝน's Avatar
หยาดฝน หยาดฝน is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 3,530
ได้ให้อนุโมทนา: 317
ได้รับอนุโมทนา 74,507 ครั้ง ใน 3,676 โพสต์
หยาดฝน is on a distinguished road
Default

เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว จึงกล่าวได้ว่า ในส่วนของ "อัตตกิลมถานุโยค" คือ การทรมานตน นั้นเป็นการสูญเปล่า ขณะเดียวกัน "กามสุขขัลลิกานุโยค" ก็รังแต่จะยึดติดกับความสุข พระองค์ท่านจึงเสนอ "มัชฌิมาปฏิปทา" หนทางสายกลางที่พอเหมาะพอดี ซึ่งสรุปลงมาแล้ว มี ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นต้น

องค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงสามารถประกาศพระพุทธศาสนา ให้ตั้งมั่นอยู่ในชมพูทวีป ซึ่งประกอบไปด้วยศาสดาเจ้าลัทธิต่าง ๆ ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่เคารพนับถือถึง ๖๒ ลัทธิด้วยกัน ก็เพราะว่าองค์สมเด็จพระภควันต์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำด้วยพระองค์เอง ทำยิ่งกว่าผู้อื่น แล้วไม่สามารถบรรลุได้ ในเมื่อพระองค์บรรลุได้ด้วยมัชฌิมาปฏิปทา จึงมีผู้เชื่อถือและปฏิบัติตาม จนเกิดพระสงฆ์ขึ้นมาในโลก เป็นเครื่องยืนยันการตรัสรู้ของพระองค์ท่าน

ดังนั้น..ไม่ว่าจะเป็นการเกิดก็ดี การตรัสรู้ก็ตาม ไม่ว่าจะตรงกับ ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ หรือไม่ แต่ว่าสิ่งที่ยืนยันได้ก็คือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ก็ตกอยู่ในอำนาจของไตรลักษณ์ ก็คือ "อนิจจัง" ไม่เที่ยง มีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นปกติ

"ทุกขัง" เมื่อดำรงพระวรกายอยู่ พระองค์ท่านก็มีทุกข์เช่นเดียวกับมนุษย์ทั่ว ๆ ไป เพียงแต่พระองค์ท่านนั้น เข้าถึงความบริสุทธิ์ของใจ เห็นว่า..ทุกข์นั้นเป็นธรรมดาของโลก จึงไม่ได้ใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็นความทุกข์หรือความสุข วางกำลังใจของพระองค์ท่านเป็นกลาง ๆ ไม่ยินดียินร้าย จึงเหมือนกับว่าพระองค์ท่านไม่ได้ทุกข์กับใครเลย

เมื่อทรงประกาศพระพุทธศาสนาอยู่ ๔๕ ปี จนกระทั่งศาสนานี้ตั้งมั่น มีพระรัตนตรัยครบถ้วนสมบูรณ์ พระองค์ท่านก็ปรินิพพานที่สาลวโนทยาน เมืองกุสินารา เป็นการย้ำอย่างชัดเจนว่า "สัพเพ สังขารา อนิจจา" สังขารทั้งหลายไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน เกิดขึ้นในเบื้องต้น แปรปรวนไปในท่ามกลาง และสลายตัวไปในที่สุด

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-06-2023 เมื่อ 02:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา