แต่ขณะเดียวกัน ถ้ายังยึดเกาะความดีอยู่ เราก็ยังไปไหนไม่ได้ ดังนั้น..องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงสอนให้เราทั้งหลาย "ปล่อยวาง" ไม่ว่าจะเรื่องดีก็ไม่ยินดี จะเรื่องร้ายก็ไม่ยินร้าย ถ้าสามารถวางใจให้เป็นกลางอย่างนี้ได้ พระองค์ท่านตรัสว่า เราทั้งหลายจักมีพระนิพพานเป็นที่ไปในเบื้องหน้า
สำหรับวันวิสาขบูชานั้น ทางวัดท่าขนุนของเรานอกจากจะมีการทำบุญใส่บาตร ฟังเทศน์ฟังธรรมแล้ว เราก็ยังมีการมอบทุนการศึกษา มีการอุปสมบทหมู่เพื่อปฏิบัติธรรม มีการบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม มีการตามประทีปถวายเป็นพุทธบูชานับหมื่นดวง และยังมีการเวียนเทียนอีกด้วย
เรื่องทั้งหลายเหล่านี้จึงเป็นเรื่องที่เราปฏิบัติตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสสอนเอาไว้ ก็คือ ให้พวกเราทั้งหลายรักษาใจของเราให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ประกอบไปด้วยการละชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้ผ่องใส จึงจะได้สมกับเป็นพุทธศาสนิกชน ที่องค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงตรากตรำพระวรกายอยู่ถึง ๔๕ ปี เพื่อสั่งสอนในสิ่งอันเป็นประโยชน์แก่พวกเรา ทั้งชาตินี้ ชาติหน้า และเป็นประโยชน์สูงสุด คือ พระนิพพาน
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-06-2023 เมื่อ 02:06
|