วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ พระภิกษุของเราก็ยังอยู่กันไม่ครบถ้วนอยู่ดี ยังมีกระจัดกระจายอยู่ที่โน่นบ้างที่นี่บ้าง ตามภารกิจของตน คือถ้าจากหลาย ๆ ที่ ถ้ากลับมาพร้อมกันก็คงไม่มีที่ให้พัก เนื่องเพราะว่าอาคารประจวบดีกับอาคารเตชะไพบูลย์ มีห้องพักแค่หลังละ ๒๐ ห้องเท่านั้น แค่ตรงนี้พระเราก็เกิน ๔๐ ไปแล้ว
เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าพระวัดท่าขนุนมักจะได้รับนิมนต์ไปเป็นเจ้าอาวาสตามวัดอื่น หรือว่าเจ้าสำนักสงฆ์ที่เขาตั้งใจจะสร้างขึ้นมา แม้แต่กระผม/อาตมภาพเองลงไปภูเก็ตเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็มีโยมจะถวายสำนักปฏิบัติธรรมให้ ซึ่งถ้าคิดในแง่มูลค่าก็แพงมาก
แต่ว่าใครถวายมากระผม/อาตมภาพก็มักจะไม่รับเอาไว้ เนื่องเพราะว่าประการแรก ไม่มีเวลาไปบริหารให้ ประการที่สอง ถ้ารับมาเป็นภาระเมื่อไร ก็ต้องดูแลในเรื่องของการบูรณปฏิสังขรณ์ ก็แปลว่าเพิ่มงานให้ตนเองโดยใช่เหตุ แล้วประการสุดท้าย ศรัทธาของญาติโยมก็มักจะเป็นเฉพาะตน ให้คนอื่นไปแทนเขาก็ไม่ยินดี ถ้าอย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าจะรับมาทำอะไร เพราะว่าภาระในปัจจุบันก็มีมากอยู่แล้ว
ปัจจุบันนี้วัดต่าง ๆ ที่มีพระวัดท่าขนุนไปอยู่ประจำ ไม่ว่าจะเป็นวัดที่ได้รับการขึ้นทะเบียนถูกต้อง หรือว่าสำนักสงฆ์ก็ตาม ก็มีถึง ๑๐ กว่าแห่งแล้ว ขนาดไม่คิดจะเปิดสาขายังมีขนาดนี้ เปิดสาขาเมื่อไรก็น่าจะมากกว่านี้อีก เพราะว่าท่านที่เคารพเลื่อมใสปฏิปทาของหลวงพ่อวัดท่าซุง ถ้าถึงเวลาเราประกาศเปิดสาขาเขาก็จะมาอาศัยเกาะอีก
เรื่องอย่างนี้จะว่าไปแล้ว เป็นการส่งเสริมให้พระพุทธศาสนาตั้งมั่นอย่างหนึ่ง เพราะว่าถ้าวัดหรือว่าสำนักสงฆ์ต่าง ๆ รวมตัวกันเป็นปึกแผ่นแน่นเหนียว มีอะไรก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ก็จะทำให้เจริญมั่นคงได้ง่ายยิ่งขึ้น แต่ว่าขณะเดียวกัน ก็จะมีความแตกแยกอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2023 เมื่อ 02:47
|