วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก เพื่อร่วมในพิธีปลุกเสกพระพุทธชินราชมิ่งมงคลสยาม ๖๖๖ ปี ซึ่งในพิธีกรรมนั้น ทางเจ้าภาพได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์จำนวน ๔๐ รูป โดยมีพระเดชพระคุณพระพรหมวชิรานุวัตร (อาทร อินฺทปญฺโญ ป.ธ.๙) วัดบพิตรพิมุขวรวิหาร เป็นประธาน
ทางด้านเจ้าภาพนั้นจัดพิธีกรรมค่อนข้างที่จะรัดกุม จึงทำให้เชื่องช้าไปโดยใช่เหตุ หลวงพ่อรวย (พระครูสุขุมธรรมธาดา) วัดมาบตาพุด บ่นแล้วบ่นอีกจนกระบุงโกยไม่ไหว ประมาณว่าถ้ารู้ว่าพิธีกรรมยาว ก็ควรที่จะเริ่มกันแต่เนิ่น ๆ ไม่ใช่มากินเวลาช่วงหลัง เนื่องเพราะว่าท่านต้องเดินทางกลับไปยังวัดมาบตาพุดที่ไกลมาก
กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วก็ยิ้มอยู่ในใจ เพราะว่าตนเองนั้นมาไกลกว่าหลวงพ่อท่านเสียอีก ก็คือถ้าออกจากวัดท่าขนุนมาก็ประมาณ ๕๐๐ กิโลเมตร ใช้เวลาวิ่ง เติมน้ำมัน และเข้าห้องน้ำ รวมกันแล้วก็ราว ๆ ๙ ชั่วโมง จนกระทั่งต้องตัดสินใจว่า ในเมื่อพิธีกรรมเขาช้าอย่างนี้ เราก็เช่าโรงแรมนอนไปก็แล้วกัน
สำหรับในพิธีกรรมเหล่านี้นั้น มีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากจะกล่าวถึง อย่างเช่นว่าในวาระสำคัญ ๖๖๖ ปีนั้น เรื่องของเลข ๖ ถ้าเป็นโหราศาสตร์จีนก็ถือว่าเป็นเลขมงคล เพราะหมายถึงกำลัง ถ้าหากว่าเป็นเลขเจ็ดตัวของไทย เลข ๖ หมายถึงเรื่องของลาภผลเงินทอง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
แต่เลข ๖ สามตัวซ้อนกันนี่ ถ้าเป็นพี่น้องคริสต์ศาสนิกชนก็เป็นอันว่าขนหัวลุก เนื่องเพราะว่าเป็นเครื่องหมายของ Antichrist หรือว่าซาตานนั่นเอง ดังนั้น..ในเรื่องที่ก้ำกึ่งกัน ว่าในส่วนที่ดีก็มีคนเชื่อถือ ในส่วนที่ไม่ดีก็มีคนเชื่อถือ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ควรที่จะเสี่ยงทำ เนื่องเพราะไม่แน่ว่าจะออกหัวหรือว่าออกก้อย
ลำดับต่อไปก็คือในเรื่องของพิธีกรรมนั้น เมื่อพระมหานาคเริ่มสวดพุทธาภิเษก ทางด้านพิธีกรก็มีการประกาศให้ท่านเจ้าภาพแต่ละท่าน ไปจุดเทียนน้ำมนต์หน้าพระเกจิอาจารย์ทีละรูป กว่าจะครบ ๔๐ รูป ก็ใช้ระยะเวลาที่นานมาก ซึ่งขั้นตอนนี้ควรที่จะทำให้เสร็จเสียก่อน แล้วค่อยอาราธนาพระมหานาคสวดพุทธาภิเษก จะได้ไม่เป็นการรบกวนกัน
แต่ว่าเสียงของพิธีกรก็ดัง เพื่อที่จะเชิญท่านผู้มีเกียรติไปจุดเทียนน้ำมนต์ เสียงของพระมหานาคก็ดัง เพราะว่าต้องสวดพุทธาภิเษก แล้วส่วนใหญ่พระมหานาคท่านก็เสียงดังเป็นปกติอยู่แล้ว เสียงจึงไปประดังแข่งกัน ทำให้ฟังดูแล้วสับสนวุ่นวายไปหมด..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-06-2023 เมื่อ 15:43
|