ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 13-06-2023, 15:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,661
ได้ให้อนุโมทนา: 151,997
ได้รับอนุโมทนา 4,416,407 ครั้ง ใน 34,251 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ภาวนาจนกระทั่งสภาพจิตหลับกับตื่นรู้เท่ากัน สามารถกำหนดได้ว่าตัวเองจะตื่นเวลาไหน ถึงได้เลิกใช้นาฬิกาปลุก สรุปว่า ๓๐ กว่าปีที่ผ่านมา กระผม/อาตมภาพไม่เคยใช้นาฬิกาปลุกเหมือนกับท่านทั้งหลาย แต่ใช้วิธีกำหนดใจว่าจะตื่นเวลาไหน แล้วก็ทำได้ตามนั้น เพียงแต่ว่าบางวัน ถ้าหากว่าเหนื่อยกลับมามาก ๆ ลืมตั้งกำลังใจไว้ก่อนนอนก็มี "ยาว" เหมือนกัน แต่ว่าทันทีที่ได้ยินเสียงตามสาย ก็ต้องรีบลุกเพื่อมาเจริญพระกรรมฐาน

การเจริญพระกรรมฐานคือการรักษาใจของเราไม่ให้กิเลสเข้ามากินได้ ต่อให้ไม่สามารถที่จะประหัตประหารกิเลสให้ตายดับลงไป อย่างน้อย ๆ ก็ต้องระวังไม่ให้มากินใจเราได้ ไม่อย่างนั้นแล้วการบวชของพวกเราก็ถือว่าเป็นโมฆะ เพราะว่าสภาพจิตก็ยังคงมืดบอด รัก โลภ โกรธ หลง ท่วมตัวเหมือนกับฆราวาส..!

ถึงเวลาเราก็ออกบิณฑบาต ญาติโยมยกขันข้าวจบเหนือหัว หวังจะได้บุญได้กุศลจากเราที่เป็นปูชนียบุคคล เป็นบุคคลที่เขามั่นใจว่าปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แล้วเราไม่มีอะไรที่ดีกว่าชาวบ้านเขาเลย นอกจากโกนหัวแล้วก็แต่งตัวไม่เหมือนเขา ถ้าลักษณะอย่างนั้น เราก็จะขาดทุน โดน "กินตัว" ไปอยู่ทุกวัน

สมัยที่กระผม/อาตมภาพบวชใหม่ ๆ อยู่ที่วัดท่าซุง พักอยู่ที่ตึกกองทุน หลังเดียวกับหลวงน้ามีชัย สุนฺทโร ท่านเตือนอยู่เสมอว่า "ท่านเล็ก ถ้าบวชแล้วไม่ตั้งใจปฏิบัติ เราจะขาดทุนนะ ก่อนญาติโยมใส่บาตร เขายกข้าวจบเหนือหัว อธิษฐานแล้วว่าเขาต้องการอะไร ถ้าสิ่งที่เขาต้องการมีคุณค่าสูงมาก ก็จะดึงเอาความดีความงามจากตัวเราไปมาก ถ้าเรามีไม่พอ ก็เท่ากับเราขาดทุน ติดลบอยู่ทุกวัน..!"

แม้ว่านี่จะเป็นความเชื่อเฉพาะตนของหลวงน้าท่านก็ตาม แต่ว่าสิ่งที่ท่านปฏิบัติ กระผม/อาตมภาพก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง อย่างเช่นว่าท่านทำวัตรค่ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว กลับกุฏิไป ยังจุดธูปเทียนไหว้พระสวดมนต์ต่ออีกเป็นชั่วโมง แล้วท่านสวดเสียงดัง กระผม/อาตมภาพได้ยินตลอด นั่นคือคนที่รู้จักละอายชั่ว กลัวบาป กลัวว่าตนเองมีบุญไม่พอตามที่ญาติโยมเขาปรารถนาในการสงเคราะห์แต่ละครั้ง จึงต้องเร่งสร้างบุญกุศลให้มากเข้าไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2023 เมื่อ 18:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา