ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 14-06-2023, 00:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,678
ได้ให้อนุโมทนา: 152,056
ได้รับอนุโมทนา 4,417,123 ครั้ง ใน 34,268 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น จะได้มีสติรับมือได้อย่างมั่นคง แล้วขณะเดียวกัน กำลังสมาธิที่ทรงตัวมาก ก็จะทำให้เราสามารถที่จะยืดหยัดอยู่ได้ โดยที่ไม่ไหลตามกระแสสังคมไปเหมือนกับคนอื่น มีปัญญาที่จะรู้จักว่า สิ่งใดพอเหมาะพอควร พอที่จะดำรงอยู่ได้อย่างพอเพียง เราก็จะกระทำสิ่งนั้น

ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายอาศัยแค่ปัจจัย ๔ ก็คือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค ท่านทั้งหลายก็จักเป็นผู้ที่มักน้อย สันโดษ ไม่มีความต้องการมากมายเหมือนกับคนอื่น จนต้องไปดิ้นรนให้เกิดความทุกข์ยากลำบากแก่ตน
บางทีก็ทุ่มเทให้กับการงานจนบ้านแตกสาแหรกขาด หรือว่าทุ่มเทให้กับการงาน หาเงินหาทองจนสุขภาพชำรุด แล้วก็ต้องเอาเงินทองนั้นมารักษาสุขภาพของตน จนไม่เหลืออะไรเลย..!

เรื่องของการที่จะอยู่อย่างเรียบง่ายในท่ามกลางความสับสนของสังคมปัจจุบัน ที่มีแต่สิ่งล่อตาล่อใจของเราทั้งหลาย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่บุคคลผู้เป็นพ่อแม่ต้องฝึกฝนให้ลูกของตนหัดรักษาศีล เจริญภาวนาตั้งแต่เด็ก ๆ จะได้มีกำลังในการยืนหยัดต่อต้านกระแสกิเลสได้

แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า พ่อแม่ยุคนี้ แม้แต่ตัวเองก็แทบจะไม่รักษาศีลและเจริญภาวนา แล้วจะเอาอะไรไปสอนลูกของตนเอง ในเมื่อรุ่นหนึ่งไม่สามารถที่จะเป็นตัวอย่างได้ รุ่นต่อ ๆ ไปก็ไม่มีบุคคลให้เดินตาม เขาทั้งหลายเหล่านั้น ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถที่จะยืนหยัดอยู่อย่างพอเพียง หากแต่ว่าไปไขว่คว้ากระแสบริโภคนิยม แล้วก็ไหลตามกระแสไปอย่างน่าสงสาร..!

จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง
เนื่องจากว่าคนไทยของเรานั้นมีสิ่งที่ดีเลิศที่สุด ก็คือพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่จะช่วยเราให้อยู่ได้โดยไม่ยากลำบาก และสามารถพัฒนากาย วาจา ใจของตน ไปจนกระทั่งสูงสุดถึงขนาดหลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพาน แต่ว่าคนไทยเราก็มักจะไม่เห็นคุณค่าตรงนี้ พากันไปยึดเอาสิ่งต่าง ๆ ที่ศึกษามาจากโลกตะวันตก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็เป็นเรื่องของการไขว่คว้าหา ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ให้กับตัวเอง จนกระทั่งบางทีก็ไม่คำนึงถึงวิธีการที่ใช้ สังคมของเราจึงเดือดร้อนวุ่นวายไปหมด

ใครที่รู้ตัวรีบกลับเข้ามาหาหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า ปฏิบัติตนจนสามารถยืนหยัดต้านกระแสได้ ก็ถือว่าเป็นคุณแก่ตัว ถ้าสามารถตัดกระแส และข้ามกระแส รัก โลภ โกรธ หลง เหล่านั้นไปได้ ก็ยิ่งเป็นเรื่องที่วิเศษอย่างยิ่ง เพียงแต่ว่าท่านทั้งหลายจะคิดถึงเรื่องเหล่านี้ได้เมื่อไร ก็ขึ้นอยู่กับเวรกับกรรมที่ท่านทั้งหลายได้ทำมา ทั้งอดีตและปัจจุบันนี้เอง


สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๑๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-06-2023 เมื่อ 03:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา