ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 14-06-2023, 23:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,928 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๑๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ ทางวัดท่าขนุนมีธรรมเนียมว่า ทุกวันที่ ๑๔ ของเดือนนอกพรรษา จะเป็นการทำบุญถวายพระครูสุวรรณเสลาภรณ์ (หลวงปู่สาย อคฺควํโส) อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน อดีตเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ซึ่งมรณภาพในวันที่ ๑๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๓๕

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทางคณะศิษย์ก็ได้จัดงานทำบุญถวายให้ทุกวันที่ ๑๔ ของเดือน ยกเว้นในช่วงเข้าพรรษา ซึ่งมีการทำบุญทั้งภาคเช้าและภาคค่ำทุกวันพระอยู่แล้ว ก็จะเลือกเอาวันพระที่ใกล้เคียงวันที่ ๑๔ มากที่สุด ทำบุญถวายหลวงปู่สายร่วมกันไปในครั้งเดียว เพื่อที่จะได้ไม่เป็นภาระแก่การจัดการมากนัก ไม่เช่นนั้นแล้วถ้าหากว่ามีการหยุดเพิ่มอีกหนึ่งวัน ญาติโยมที่รอใส่บาตรอยู่ ก็อาจจะรู้สึกไม่ดีขึ้นมาได้

เนื่องเพราะว่าทุกวันนี้ ช่วงเข้าพรรษาทุกวันพระ ทางวัดท่าขนุนเรามีการทำบุญทั้งภาคเช้าและภาคค่ำ ก็แปลว่าเดือนหนึ่งอย่างน้อยก็หยุดไป ๔ วัน แล้วถ้าวัดมีกิจการงานสำคัญอะไรขึ้นมาอีก อย่างเช่นว่าบวงสรวงไหว้ครู เป่ายันต์เกราะเพชร หรือว่างานวันแม่ เป็นต้น ก็จะมีการหยุดบิณฑบาตเพิ่มเติมขึ้นไปอีก ซึ่งญาติโยมทั้งหลายที่มีกำลังใจผูกอยู่กับทานบารมี ก็คือตั้งใจใส่บาตรอยู่ทุกวัน ถ้าหากว่าพระไม่ไปบิณฑบาตก็จะรู้สึกว่าไม่ดี บางท่านถึงขนาดหอบเอาข้าวปลาอาหารมาถวายให้ถึงวัด เนื่องเพราะว่าตั้งใจที่จะทำบุญแล้ว

ตรงจุดนี้ ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุ สามเณร แม่ชี หรือว่าฆราวาสที่เป็นคนวัด ต้องตระหนักและสังวรให้ดี ว่าเราทั้งหลายอยู่ได้ด้วยศรัทธาของญาติโยม ถ้าหากว่ามีสิ่งหนึ่งประการใด ที่ทำให้ญาติโยมเสื่อมศรัทธาแล้ว เราอาจจะถึงกับอยู่ไม่ได้ เนื่องจากว่าญาติโยมทั้งหลายไม่มาสนับสนุน ไม่ว่าจะด้วยเรื่องของอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรคประการใดก็ตาม

เนื่องเพราะว่านักบวชนั้นไม่ได้มีอาชีพอะไร เพราะว่าองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ตรัสเอาไว้ชัดเจนว่า การหาเลี้ยงชีพของพระภิกษุคือการเที่ยวบิณฑบาต ไม่ใช่การบอกใบ้ให้หวย ไม่ใช่การครอบครูให้กับญาติโยม ไม่ได้ไปทำการเสริมดวง เหล่านั้นเป็นต้น ซึ่งสิ่งทั้งหลายเหล่านั้น กลับเป็นสิ่งที่ญาติโยมผู้ซึ่งมักง่าย นิยมกันเป็นอย่างมาก

ถ้าหากว่าให้เสริมดวงด้วยการ ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ทุกคนก็จะมีข้ออ้างว่า ไม่มีเวลาบ้าง ยากเกินไปบ้าง แต่พอถึงเวลามีการเจิมหน้าผาก มีการเขียนต่อลายมือ มีการลงนะหน้าทอง หรือว่าอะไรก็ตาม พวกเราก็แห่กันไปทำเป็นการใหญ่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-06-2023 เมื่อ 01:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา