ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 17-06-2023, 00:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,127 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ว่ากระผม/อาตมภาพก็มองเห็นปัญหาล่วงหน้าตั้งแต่แรก เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า การศาสนศึกษาที่ว่านั้นคือ การเรียนบาลี เรียนนักธรรม และเรียนแผนกสามัญ ซึ่งบรรดาครูบาอาจารย์ต่าง ๆ นั้น ถ้าหากว่าท่านเห็นช่องทาง ท่านก็พร้อมที่จะสึกหาลาเพศไปทันที ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถึงเวลาก็ต้องส่งประวัติกันใหม่ ทำให้สับสนวุ่นวาย และต้องมีความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบประมาณเกี่ยวกับเงินเดือน หรือว่าเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของสำนักศาสนศึกษานั้น ๆ

แต่ว่าเรื่องเหล่านี้ยังไม่ใช่เรื่องใหญ่จริง ๆ เรื่องที่ใหญ่จริง ๆ ก็คือว่า สำนักศาสนศึกษาที่ไม่ได้มีพระภิกษุสามเณรเหลือเฟือแบบวัดท่าขนุน ท่านไม่สามารถที่จะแต่งตั้งให้พระภิกษุผู้มีความรู้ทางบาลี นักธรรม หรือปริยัติสามัญ ลงประจำตำแหน่งได้ครบถ้วน

แม้ว่าสำนักศาสนศึกษาวัดท่าขนุนจะมีบุคลากรพอที่จะประจำตำแหน่งให้ครบถ้วน แต่กระผม/อาตมภาพก็ตั้งเอาไว้แค่ ๑๑ ตำแหน่งเท่านั้น เนื่องเพราะว่าเกรงใจที่ทางราชการต้องจัดสรรงบประมาณมาให้ สำนักศึกษาวัดท่าขนุนของเรา จึงมีอาจารย์ทางแผนกบาลี ๕ ตำแหน่ง ทางแผนกนักธรรม ๕ ตำแหน่ง และเจ้าสำนักศาสนศึกษา อีก ๑ ตำแหน่งเท่านั้น ในเรื่องของผู้ช่วยหรือว่าเลขานุการ ตลอดจนกระทั่งตำแหน่งอื่น ๆ ปล่อยให้ว่างไว้เฉย ๆ จะได้ไม่ต้องไปสิ้นเปลืองงบประมาณมากนัก

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้จะว่าไปแล้ว ทางคณะสงฆ์ของเรารับผิดชอบในเรื่องของการศึกษากันเองมาตั้งแต่ต้น แต่ในเมื่อมีกฎหมายออกมารองรับ ก็ยังต้องมีเรื่องให้ปวดหัวกันอีกมาก โดยเฉพาะถ้าเป็นกระผม/อาตมภาพแล้ว การไม่รับงบประมาณแผ่นดินจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด เพราะว่าเราจะใช้ไปในลักษณะไหนก็ได้

แต่ถ้าหากว่าเรารับเงินงบประมาณมาแล้ว ก็จะมีกฎเกณฑ์ในการใช้ ซึ่งจะระบุเอาไว้ชัดเจนว่า สิ่งใดสามารถจ่ายได้ สิ่งใดไม่สามารถที่จะจ่ายได้ ถ้าหากว่าเผลอเมื่อไร ก็อาจจะทำผิดกฎหมายโดยไม่รู้ตัว เหมือนกับแหย่เท้าข้างหนึ่งเข้าไปในคุกตาราง แต่ว่าถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว ก็ต้องเพิ่มเจ้าหน้าที่มา ๑ รายโดยไม่คิดงบประมาณ ก็คือให้มาดูแลในเรื่องเหล่านี้โดยเฉพาะ ก็คือศึกษาว่าทำแบบไหน ถึงจะสามารถจ่ายงบประมาณได้ถูกต้อง แล้วก็ปฏิบัติไปตามนั้น ไม่ต้องรับผิดชอบหน้าที่อื่น ๆ แต่วัดเล็ก ๆ ที่ท่านมีพระแค่ ๒ รูป ๓ รูป แล้วสอนกันแบบพี่สอนน้อง เมื่อถึงเวลาไม่รู้ว่าจะหาบุคลากรที่ไหนมาลงประจำตำแหน่งได้ ก็อาจจะมีปัญหาตรงนี้มาก

เรื่องพวกนี้ปล่อยให้ทางเจ้าคณะปกครอง โดยเฉพาะฝ่ายการศาสนศึกษาท่านปวดหัวกันไป ของพวกเราก็ทำหน้าที่เหมือนเดิมไปทุกประการ มีเงินมาให้ก็ยินดีรับไว้ และจะพยายามใช้จ่ายให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์กติกานั้น ๆ ก็เป็นอันว่าจบแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2023 เมื่อ 03:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา