ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 26-06-2023, 00:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,566 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนกระผม/อาตมภาพนั้นออกบิณฑบาตทางสายใต้ มีพระที่ติดตามไปก็คือพระสมปอง สุธมฺมสนฺตจิตฺโต หรือภายหลังก็คือท่านจิตโตนั่นเอง สองคนพี่น้องเดินฝ่าฝนที่ตกกระหน่ำอย่างชนิดฟ้ารั่ว ไปจนกระทั่งถึงหัวสะพาน ซึ่งฝั่งเลยหัวสะพานนั้น ภายหลังหลายสิบปีมีร้านอาหารชื่อดัง คือศาลาโค้ก เป็นช่วงที่ถ้าวิ่งตามเส้นทางเก่าก็จะไปออกท่าเรือมโนรมย์ แต่ว่ามีการเวนคืนพื้นที่ตัดตรงไป ขึ้นสะพานมโนรมย์ในปัจจุบันนี้เลย

สะพานบริเวณคลองเล็ก ๆ นั่นแหละ คุณยายอายุ ๘๐ กว่า ผมขาวทั้งหัว ถือขันข้าวพร้อมกับใบกล้วยบังหัวรอพระมารับบาตร กระผม/อาตมภาพเห็นแล้วรู้สึกจุกขึ้นมาถึงคอหอย เนื่องเพราะว่าคุณยายกลัวว่าลูกพระจะอด ฝนฟ้าตกขนาดนี้ บ้านอื่นคงจะไม่ใส่บาตรกัน ก็เลยต้องทนฝนทนหนาวออกมารอใส่บาตร กระผม/อาตมภาพมองหน้ากับท่านสมปองแล้วคิดในใจเหมือนกันว่า "วันนี้ถ้าไม่มา..กูหมาแน่เลย..!"

เรื่องพวกนี้จะว่าไปแล้ว มีส่วนทำให้กระผม/อาตมภาพถือวัตรปฏิบัติเคร่งครัดมาตลอด ในเรื่องของการสวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต กรรมฐาน เนื่องเพราะครูบาอาจารย์บอกว่า นี่จึงเป็นงานหลักของพระภิกษุสามเณรในพระพุทธศาสนา งานอื่นถึงจะสำคัญขนาดไหนก็ตาม เมื่อถึงเวลา ให้วางมือมาทำงานหลักของเราก่อน ดังนั้น..วันนี้ในการตากฝนของกระผม/อาตมภาพ ก็ต้องบอกว่า ตลอดระยะเวลา ๓๗ ปีเต็ม ขึ้น ๓๘ ปีที่บวชมา กระผม/อาตมภาพน่าจะตากฝนมาหลายร้อยหลายพันครั้ง เนื่องเพราะว่าถ้าอยู่วัดจะไม่เคยขาดบิณฑบาตเลย

โดยเฉพาะในช่วงแรกที่ไปบูรณปฏิสังขรณ์วัดท่าขนุน สมัยที่ท่านอาจารย์พระสมุห์สมพงษ์ เขมจิตฺโต หรือปัจจุบันคือทิดสมพงษ์ มณีรัตน์ ยังเป็นเจ้าอาวาสอยู่ กระผมไปในฐานะอาจารย์ของเจ้าอาวาส จึงต้องทำทุกอย่างให้เป็นแบบอย่างแก่พระเณรอื่น ๆ ถ้าหากว่าเจ้าอาวาสทำตาม พระภิกษุสามเณรก็จะไม่มีปัญหา จึงได้พาพระภิกษุสามเณรลุยฝนบิณฑบาตอยู่ทุกวันตลอดพรรษา

กลายเป็นภาพชินตาที่บรรดาญาติโยมทั้งหลายเห็น พอหลายปีผ่านไป ทุกคนก็รู้แล้วว่า ฝนฟ้าจะตกหนักขนาดไหนก็ตาม พระวัดท่าขนุนจะออกบิณฑบาตตามปกติ จึงเป็นเรื่องที่ทำจนเป็นแบบธรรมเนียมประเพณีไปแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-06-2023 เมื่อ 01:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา