นอกเมืองไปเริ่มดูแห้งแล้ง มีไร่ยูคาลิปตัสสลับกับมะม่วงหิมพานต์และยางพารา มีโรงโม่หินขนาดใหญ่ที่เอานักโทษมาทำงานตามเคย จนมาถึงสะพานเหล็กหน้าตาคล้ายสะพานกรุงธน ทอดข้ามแม่น้ำซิตต็อง แม่น้ำนี้แหละที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชยิงสุรกรรมาแม่ทัพพม่าตายด้วยกระสุนนัดเดียว ที่คนไทยเรียกว่าแม่น้ำสะโตงนั่นอย่างไร
ความกว้างใกล้เคียงแม่น้ำเจ้าพระยา สะพานขนาดใหญ่มีทางรถไฟอยู่ตรงกลาง สองข้างทางเป็นทางรถยนต์ ต้องจ่ายค่านักเลงตามเคย เด็ก ๆ วิ่งมาตื๊อให้ซื้อน้ำ บอกว่าจนป่านนี้ยังขายไม่ได้เลย มันพูดอย่างนี้ตั้งแต่เช้ายันเย็นแหละครับ
ท่านนาวินว่า อาตมาเลยไม่คิดจะซื้อ ขืนประเดิมอย่างมันว่า คงประเดิมความโง่ของตนแน่ ๆ..!
ข้ามสะพานไปก็พ้นเขตรัฐมอญ เข้าเขตมณฑลปะโก (พะโค) ซึ่งก็คือหงสาวดีนั่นเอง แต่ทางพม่าไม่ยอมให้ใช้หงสาวดี เพราะกลัวว่าพวกมอญจะยึดคืน ขนาดแบ่งออกมาจากรัฐมอญให้อยู่ในเขตมณฑลพะโค เพื่อป้องกันการเรียกร้องเมืองหลวงเก่าของพวกเขาคืน คนมอญคนไหนเป็นใหญ่ขึ้นมา มักจะถูกบอนไซทันที เขาทำกันขนาดนั้น..!
จากซิตต็องถึงเมืองวอ สะพานถูกน้ำพัดขาดไปสามแห่ง เกิดจากอุทกภัยเมื่อปีที่แล้ว มีคนตายไปร่วมสองหมื่นคน แต่ทางการเขาปิดข่าวได้ดีมาก แทบไม่มีเล็ดลอดออกไปสู่โลกภายนอกเลย ถ้าไม่ได้อยู่ติดชายแดน อาตมาคงไม่ทราบเช่นกัน รถต้องลงทางเบี่ยงหลบลงกลางนา มีแม่ค้าเอามันแกวมาขายกองเป็นภูเขาเลากา น่ากินดีเหมือนกัน
มันแกวที่วางกองขายตลอดเส้นทาง
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-04-2010 เมื่อ 17:19
|