ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 22-07-2023, 21:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,713
ได้ให้อนุโมทนา: 152,065
ได้รับอนุโมทนา 4,418,812 ครั้ง ใน 34,303 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สิ่งที่มากระทบเป็นเครื่องทดสอบที่ดีที่สุด ว่าเราทำใจได้แค่ไหนแล้ว ถ้ารู้ว่าสู้ไม่ไหวจริง ๆ ก็ถอยหลังมาก่อน หายใจยาว ๆ สัก ๗ - ๘ ครั้ง แล้วก็กลับมาใหม่ "วันนี้แพ้เอ็ง..ข้าไม่ว่า พรุ่งนี้ข้าจะชนะให้ได้" เหมือนกับเอากิเลสไปชน แต่ไม่ใช่..นั่นเป็นอธิษฐานบารมี คือความตั้งใจ และวิริยบารมีคือความเพียร ในการที่เราต่อสู้กับกิเลส ถ้าไม่มีเครื่องวัด เราจะไม่รู้เลยว่าการปฏิบัติของเราไปถึงระดับไหนแล้ว

หลายท่านพอถึงเวลานั่งกรรมฐาน จิตใจสงบเยือกเย็น มีความสุขมาก แล้วถ้าหากว่าสมาธิทรงตัวในระดับสูง กดกิเลส รัก โลภ โกรธ หลง นิ่งไปเลย เย็นกายเย็นใจ จนบอกเป็นภาษามนุษย์ไม่ได้ แล้วก็ไปคิดว่าตัวเองบรรลุมรรคผลแล้ว ทั้ง ๆ ที่เป็นโลกียฌานธรรมดา ๆ เพียงแต่ว่าฌานนั้นมีอำนาจในการดับ รัก โลภ โกรธ หลง ได้ชั่วคราว เข้าถึงระดับต่ำก็ดับได้ไม่นาน เข้าถึงระดับสูง ถ้ารักษาเป็นก็ดับได้นาน ทำเอาคนหลงผิดไปมากแล้ว ว่าตัวเองเข้าถึงมรรคถึงผล หลายต่อหลายท่านที่อยู่ในป่า เมื่อออกมาสู่เมืองจึงพังกระจายหมด..!

เมื่อวานนี้ตอนที่
กระผม/อาตมภาพเข้าอบรมโครงการ Upskills การสอนวิชาพระพุทธศาสนา ท่านอาจารย์ ศ.ดร.วัชระ งามจิตรเจริญ ท่านบอกว่า ท่านมีคนรู้จัก เป็นอดีตพระธุดงค์ ทรงฌานและมีทิพจักขุญาณแม่นมาก ตอนที่ท่านอาจารย์เป็นสามเณร มีโอกาสได้กราบพบ ท่านทำนายอะไรไว้ ปัจจุบันนี้เป็นจริงตามนั้นหมด แต่ตอนนี้ท่านสึกไปนานแล้ว..! เห็นหรือยังว่านั่นคืออะไร ? นั่นก็คือเรื่องของบุคคลที่ปฏิบัติอยู่ป่า พอเข้าสู่เมืองมา ก็ทนกระแสกิเลสไม่ได้ พังลงมาในเวลาอันรวดเร็ว..!

หรือถ้าอย่างในธรรมบท หลายท่านที่เป็นมหาเปรียญ แปลผ่านหรือว่าอ่านผ่านมาแล้ว ที่พระราชานิมนต์พระฤๅษีไปรับภัตตาหารในวังทุกวัน ปรากฏว่าวันนั้นพระฤๅษีเหาะผ่านเพื่อเข้าไปรับภัตตาหาร พระมเหสีได้ยินเสียงลมพัดเสียดสีกับหญ้าคากรองที่ฤๅษีครองอยู่ ก็ลุกขึ้นมาดู โดยที่ท่านลืมไปว่า ท่านเองไม่ได้มีเครื่องทรง เพียงเอาผ้าคลุมไว้เฉย ๆ ตอนนอน พอลุกขึ้นผ้าก็หลุด ฤๅษีเห็นเต็ม ๆ ตา ร่วงตุ้บเลย..!

ก็เพราะว่ากิเลส รัก โลภ โกรธ หลง กำเริบขึ้นมาทันทีทันใดที่ตากระทบรูป สมาธิก็เลยพังทลาย แล้วฤๅษีก็ยังกล้าพอ ไปทูลบอกพระราชา ขอพระมเหสีไปเป็นภรรยาตัวเอง ช่างกล้านะ..! พระมเหสีกระซิบบอกพระราชาบอกว่า "ให้ไปเลย เดี๋ยวหม่อมฉันจะจัดการให้" พระราชาก็ยกพระมเหสีให้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-07-2023 เมื่อ 02:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา