เมื่อได้เวลา ทางด้านพระมหานาคเริ่มสวดพุทธาภิเษก กระผม/อาตมภาพก็น้อมจิตน้อมใจกราบขอบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันตเจ้า ครูบาอาจารย์ ตลอดจนกระทั่งพรหมเทวดา และเจ้าที่เจ้าทาง อนุเคราะห์สงเคราะห์ในการพุทธาภิเษกวัตถุมงคลรุ่นอนุสรณ์ ๑๕๑ ปีมรณกาล สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) วัดระฆังโฆสิตาราม
แล้วก็เห็นหลวงปู่โต วัดระฆัง ซึ่งต้องเรียกว่า "ท่านอาจารย์ปู่ทวด" องค์ใหญ่ล้นโบสถ์วัดระฆังเลย จึงน้อมใจถวายภาระให้แก่ท่าน จนกระทั่งท่านบอกว่า "เต็มที่แล้ว" กระผม/อาตมภาพก็ "ถอนใจ" ออกมาทำน้ำมนต์ แล้วก็เรียกให้ผู้ติดตามนำเอาไทยธรรมไปขึ้นรถ
แต่ว่าวันนี้รถนั้นก็มามากเหลือเกิน จึงต้องติดอยู่ข้างล่างเป็นเวลานาน ได้มีเวลาสนทนากับพระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร) ซึ่งรู้จักคุ้นเคยกันมาตั้งแต่สมัยกระผม/อาตมภาพยังอยู่วัดท่าซุง แล้วก็ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระพรหมบัณฑิต, ศ.ดร. (ประยูร ธมฺมจิตฺโต ป.ธ.๙, Ph.D.) ประธานคณะกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่รถวิ่งผ่านมายังอุตส่าห์เปิดกระจกมาทักทาย เมื่อรอจนรถของกระผม/อาตมภาพมาถึงแล้ว กว่าที่จะฝ่ารถติดมาถึงที่พัก ก็เลยเวลาทุ่มครึ่งไปแล้ว จึงต้องขออภัยต่อญาติโยมทั้งหลาย ที่วันนี้ได้ฟังเสียงธรรมช้าไปสักหน่อย
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-08-2023 เมื่อ 03:13
|