เรื่องพวกนี้ ถ้าเราพิจารณาโดยความเป็นธรรม อันดับแรกเลย ถ้าหากว่าเจ้าสำนักนำตำรวจไปในลักษณะข่มขู่พระภิกษุสามเณร ก็ค่อนข้างจะทำเกินกว่าเหตุ เนื่องจากว่ายังอยู่ในช่วงเข้าพรรษา อย่างน้อย ๆ ก็ต้องให้พระภิกษุสามเณรนั้น หาที่อยู่ใหม่ได้เรียบร้อยเสียก่อน แล้วค่อยโยกย้ายไป อาจจะออกคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร โดยกำหนดไว้ว่า ภายใน ๓ วัน ๕ วัน หรือว่า ๗ วัน ต้องดำเนินการให้สิ้นสุดลง ไม่เช่นนั้น จะขออารักขาจากทางราชการ ก็คือขอให้ตำรวจมาช่วย
ส่วนพระภิกษุสามเณรนั้นก็เหมือนกับตั้งใจจะสร้างภาพ ก็คือหอบหิ้วข้าวของ แม้กระทั่งพัดลม เดินทางออกจากวัดตั้งแต่กลางดึก เหมือนกับเจตนาที่จะให้ญาติโยมที่ยังไม่หลับไม่นอน ได้พบเห็นและแตกตื่น เพื่อที่จะให้เป็นข่าวคราวขึ้นมา
ดังนั้น..เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าพิจารณากันโดยความเป็นธรรมแล้ว ก็ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนกัน เพียงแต่ว่าตัวเจ้าสำนักนั้นยินดีลาออก และพระภิกษุสามเณรก็ยินดีที่จะกลับเข้าไปอยู่วัด เรื่องจึงสงบลง โดยที่ฝ่ายบอบช้ำก็คือพระพุทธศาสนา เพราะว่าเหมือนกับพระภิกษุสามเณรของเรา "ตีกันเอง" ให้ชาวบ้านเขาเห็น สร้างความเสื่อมศรัทธาให้เกิดขึ้นได้
ส่วนของวัดแห่งที่สอง ซึ่งเจ้าอาวาสไปกำหนดราคาการใช้เมรุ ใช้น้ำ ใช้ไฟ ในเวลาจัดงานศพนั้น ถ้าหากว่าเราดูในส่วนที่กำหนดเอาไว้ในหน้าที่ของเจ้าอาวาส ก็คือข้อที่ (๔) ให้อำนวยความสะดวกตามสมควรในการบำเพ็ญกุศล ซึ่งเรื่องนี้ ถ้าเป็นที่วัดท่าขนุนของกระผม/อาตมภาพก็จบง่ายเลย เนื่องเพราะว่าฟรีทุกอย่าง แม้กระทั่งเผาก็ฟรี แต่เนื่องจากว่าชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นผู้มีฐานะ ก็มักจะถวายค่าน้ำค่าไฟให้แก่ทางวัดตามสมควร แต่ว่าทางวัดก็ขอร่วมเป็นเจ้าภาพของชำร่วยแจกงานศพ เป็นหนังสือบ้าง เป็นวัตถุมงคลบ้าง ซึ่งถ้านับเป็นมูลค่าแล้วก็เป็นหมื่นเป็นแสนบาททุกครั้ง
ดังนั้น..ในข้อนี้ที่ระบุเอาไว้ จึงกลายเป็นว่าเจ้าอาวาสไม่อำนวยความสะดวกตามสมควรในการบำเพ็ญกุศล ก็ถือว่าขาดความเมตตา เช่นเดียวกับที่เจ้าสำนักได้ให้สั่งให้พระภิกษุสามเณรออกจากวัดกลางดึก ก็ถือว่าสั่งโดยไม่ชอบต่อพระธรรมวินัย กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคำสั่งของมหาเถรสมาคม ซึ่งถ้าหากว่าพระภิกษุสามเณรดื้อแพ่ง ทางตำรวจก็จัดการอะไรไม่ได้ เพราะว่าถ้าจัดการไป ก็เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เนื่องเพราะว่าตัวเจ้าพนักงานก็คือเจ้าสำนักนั้น ได้ปฏิบัติหน้าที่โดยที่ไม่ชอบด้วยพระธรรมวินัยก่อนแล้ว
เรื่องพวกนี้ ถ้าหากว่าเราใจเย็น ๆ ค่อย ๆ พิจารณา หรือว่าค่อย ๆ นำเอากฎหมาย ระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ เข้ามาจับ ก็จะเห็นอย่างชัดเจนว่าอะไรเป็นอะไร เมื่อความชัดเจนปรากฏขึ้น ก็จะไม่เป็นการเอาชนะคะคานกันด้วยโมหะ ก็คือความหลงผิด
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-08-2023 เมื่อ 02:04
|