เรื่องพวกนี้จะว่าไปแล้วก็เป็นกฎของธรรรมชาติ ก็คือเรานำสิ่งหนึ่งประการใดมา ก็ต้องมีสิ่งทดแทนให้ ดังนั้น..การที่เราจะอธิษฐานขออะไรก็ตาม จึงต้องแลกกันด้วยบุญด้วยกุศลที่เราสร้างมา ถ้าเราสร้างเหตุได้เพียงพอ ผลก็จะได้ตามที่เราขอ แต่ถ้าหากว่าเราสร้างเหตุไม่เพียงพอ ผลก็ไม่เกิด
ดังนั้น..จะเห็นว่าหลายท่านไปบนในสถานที่เดียวกัน เรื่องเดียวกัน ทำไมคนหนึ่งบนแล้วสำเร็จ อีกคนหนึ่งบนแล้วไม่สำเร็จ คนที่บนแล้วสำเร็จนั้นแปลว่าสร้างเหตุมาเพียงพอแล้ว หรืออาจจะขาดเล็กน้อย การไปบนก็คือการที่เราสัญญาว่า ถึงเวลาแล้วจะสร้างความดีอย่างนั้นอย่างนี้ ในเมื่อผู้รับบนพิจารณาแล้ว เห็นว่าเพียงพอที่จะทดแทนกันได้ ก็ทำให้เกิดความสำเร็จขึ้นมา
แต่อย่าลืมว่าความสำเร็จนี้ก็คือต้นทุนใหญ่ทั้งหมดที่เรามี เป็นการลงทุนด้วยสิ่งที่เรามีทั้งหมด บวกกับสิ่งที่เราจะทำต่อไปในภายหน้า ถ้าบนแล้วสำเร็จ เหมือนกับการกู้เงิน แต่ถ้าหากว่าเราสร้างเหตุไว้ไม่พอ บนเท่าไรก็ไม่สำเร็จ ต่อให้เป็นที่เดียวกัน เรื่องเดียวกัน ก็ไม่สำเร็จ
วันนี้ที่มากล่าวถึงเรื่องนี้ก็เพราะว่า ถ้าหากว่าเป็นนักปฏิบัติธรรม เพื่อความหลุดพ้นจริง ๆ เว้นเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ไว้ได้ก็จะดี เนื่องเพราะว่าสิ่งที่เราสั่งสมมา ไม่ว่าจะเป็นศีล เป็นสมาธิ เป็นปัญญา ควรจะเป็นไปเพื่อการหลุดพ้นโดยส่วนเดียว ไม่อย่างนั้นแล้วก็เหมือนกับคนหาเงินมา ตั้งใจจะซื้อบ้านสักหลังหนึ่ง พอได้มายังไม่เท่าไร ก็เอาไปใช้ในเรื่องอื่นหมด
อีกประการหนึ่งก็คือเรื่องที่เกี่ยวกับไสยศาสตร์ คาถาอาคม หรือแม้กระทั่งมโนมยิทธิ เป็นการที่เราต้องหน่วงจิตยึดมั่นอยู่กับสิ่งหนึ่งประการใด เพื่อให้เกิดผลขึ้น ฟังให้ดี ๆ อย่างเช่นว่า ถ้าเราจะใช้คาถาห้ามฝน ก็อาจจะกำหนดเหมือนอย่างกับมีหลังคา หรือว่ามีผ้ายางผืนโตกันบริเวณนั้นเอาไว้ พร้อมกับคำภาวนา คราวนี้สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ พอเราทำจนเคยชินจะเร็วมาก แล้วถ้าทำได้สำเร็จ วางกำลังได้ถูกก็จะสำเร็จทุกครั้ง
แต่ว่าส่วนเสียก็คือเราต้องยึด ก็คือยึดในภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพที่อาศัยวัตถุข้างนอก หรืออาศัยใจเรากำหนดขึ้น ยึดในตัวพระคาถานั้น ๆ ตลอดจนกระทั่งยึดในครูบาอาจารย์หรือว่าพรหมเทวดา ที่ให้การสงเคราะห์ ยึดอะไรสักอย่างหนึ่งก็ไม่ต้องไปไหนแล้ว เหมือนกับเราจะลงไปกาญจนบุรี แต่ยืนกอดเสาอยู่ตรงนี้ แล้วจะไปได้ไหม ?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-08-2023 เมื่อ 02:45
|