ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 23-08-2023, 23:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,416,056 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ อาการเจ็บไข้ได้ป่วยยังคงมีอยู่เป็นปกติ เหมือนดั่งคำภาษิตจีนที่ว่า "ยามไข้มาเร็วเหมือนภูเขาถล่ม ยามไข้หายช้าเหมือนกับสาวไหม" ก็คือ เวลามาก็มาชนิดฟ้าถล่มดินทลาย เวลาหายก็เชื่องช้าเสียเหลือเกิน..!

ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องปกติ เพราะว่าบุคคลที่แก่ชราแล้ว ธาตุต่าง ๆ ในร่างกายบกพร่องไปมาก เมื่อพร่องมากจนอยู่ในระดับที่ทนไม่ไหว ก็แสดงอาการออกให้รู้ด้วยการเจ็บไข้ได้ป่วย แล้วจะให้สามารถส่งคืนไปจนกว่าจะพอเพียง ทำให้เราหายป่วยโดยเร็วนั้นก็เป็นเรื่องที่ยาก

โดยเฉพาะบุคคลที่เจ็บไข้ได้ป่วยก็มักจะปากคอจืดหมด ไม่ค่อยจะรับประทานอาหารอะไร หรือว่าไม่รู้สึกอยากอาหารอะไร แต่ว่ากระผม/อาตมภาพนั้น ฝึกฝนตนเองจนมีข้อดีอยู่อย่างหนึ่ง ก็คือเจ็บไข้ได้ป่วยขนาดไหนก็ตาม จะพยายามยัดเยียดอาหารแล้วกลืนลงไป ลักษณะคล้าย ๆ กับการฝึกอาหาเรปฏิกูลสัญญาเช่นกัน แต่ไม่ใช่พิจารณาอาหารว่าเป็นของสกปรก แล้วต้องฝืนใจกินลงไปเพื่อยังอัตภาพร่างกายนี้ หากแต่ว่าต้องฝืนใจกินลงไป ทั้ง ๆ ที่ร่างกายไม่ได้อยากอาหาร เพราะว่าถ้าไม่มีธาตุอาหารให้ ร่างกายก็ยิ่งจะเจ็บไข้ได้ป่วยและฟื้นตัวได้ช้ายิ่งขึ้น

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องที่ท่านจะเอามาเลียนแบบกันได้ เพราะว่ากำลังใจของเรานั้น จะต้องเห็นอย่างชัดเจนว่าร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เรามีหน้าที่ดูแลรักษาก็กระทำไปอย่างเต็มที่ เมื่อดูแลรักษาเต็มที่แล้ว ถ้าไม่สามารถที่จะแก้ไขให้คืนดีได้ เราก็ยอมรับว่านั่นเป็นกฎของกรรม

เรื่องเหล่านี้จึงเป็นเรื่องที่ท่านทั้งหลายควรที่จะยึดถือเอาไว้เป็นบทเรียน ว่าถ้าหากจะดำเนินชีวิตอยู่ในโลกนี้ โดยไม่ให้ลำบากยากแค้นเกินไปนัก อันดับแรกเลย..ต้องเห็นให้ชัดเจนว่าร่างกายนี้ประกอบไปด้วยความทุกข์เป็นปกติ ในเมื่อมีความทุกข์เป็นปกติ ก็จงมีของเจ้าไปเถิด ถ้าเราสามารถที่จะผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ เราก็จะช่วยผ่อนให้ แต่ถ้าเราผ่อนจนถึงที่สุดแล้ว ยังไม่สามารถที่จะช่วยอะไรได้ เจ้าจะพังก็จงพังไปเถิด..!

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ เราควรที่จะสังวรเอาไว้ และพยายามที่จะมองให้เห็นเป็นปกติ ไม่เช่นนั้นแล้วถ้าเผลอสติ หายจากการเจ็บไข้ได้ป่วยเมื่อไร เราก็พลอยที่จะอยากอยู่ต่อไปอีกแล้ว ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้น "เจ็บเหลือเกิน ปวดเหลือเกิน ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แล้ว" พอร่างกายดีขึ้นมา มีอาการฟื้นคืนเรี่ยวแรงนิดหน่อย ก็รู้สึกอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป นั่นเป็นความกลับกลอกของกำลังใจ ซึ่งหาความเที่ยงแท้แน่นอนอย่างแท้จริงไม่ได้เลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-08-2023 เมื่อ 00:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา