ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 25-08-2023, 00:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,654
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,109 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..พรุ่งนี้พวกท่านส่วนหนึ่งที่ต้องลำบากลำบน โดนเขย่าแทบจะหลุดเป็นชิ้น ๆ ไปสองชั่วโมงครึ่ง เพื่อที่จะเข้าไปถึงวัดทุ่งเสือโทนนั้น งานนี้จัดขึ้นเพื่อให้เจ้าคณะปกครองได้ทราบว่า ในพื้นที่เขาลำบากกันขนาดไหน โดยเฉพาะวิทยากรท่านหนึ่ง ซึ่งเมื่อครู่เพิ่งจะไลน์คุยกัน ก็คือท่านเจ้าคุณวีรพล - พระสุธีวชิรปฏิภาณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ท่านเป็นคนจังหวัดกาญจนบุรี จบเปรียญธรรม ๓ ประโยคแล้ว ถวายการรับใช้หลวงพ่อสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ปสฤทธ์ เขมงฺกโร) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามอยู่ ได้นิมนต์ท่านมาเป็นวิทยากร เพื่อที่ถึงเวลาแล้ว ท่านจะได้ไปกราบหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดโพธิ์ ว่าพวกเราอยู่กันแบบไหน..?!

กระผม/อาตมภาพเคยถ่ายรูปตอนเข้าไปตรวจการคณะสงฆ์ ส่งไปทางสำนักงานเจ้าคณะภาค ๑๔ แล้ว ทุกท่านสงสัยว่าพื้นที่แบบนี้ยังมีอยู่ในประเทศไทยด้วยหรือ ? ยังต้องบอกว่าที่ลำบากกว่านี้ยังมีอีก แถวบ้านจะแก สาละวะ ไล่โว่ หรือแม้กระทั่งบ้านทิไร่ป้า สะเหน่พ่อง กองม่องทะ เกาะสะเดิ่ง แถวนั้นเขาบวชพระกันปีละครั้งเดียว พอถึงเวลาพร้อม ทางด้านหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัด จะนัดพระอุปัชฌาย์อาจารย์ พระคู่สวด เขย่ากันเข้าไปหลาย ๆ ชั่วโมงกว่าจะถึง บางทีก็ต้องเข็นรถกันจนขี้โคลนท่วมหัว เข้าไปบวชให้ชาวบ้านชื่นใจว่าได้บวชลูกแล้ว ส่วนบวชลำบากลำบนขนาดนั้น จะอยู่ได้กี่วันก็แล้วแต่บุญของเขา

บางทีญาติโยมส่วนใหญ่ที่ใช้วาจาในลักษณะว่า "บวชพระแล้วดี สบาย บ้านไม่ต้องเช่า ข้าวไม่ต้องซื้อ ภาษีไม่ต้องเสีย" อยากจะบอกแบบไพเราะว่า "มึงมาบวชแถวนี้ดูสิ..ดูว่าจะสบายไหม..?!"

หน้าแล้งกระผม/อาตมภาพเคยต้องฉันต้มผักกูดที่ก้านแข็งกว่าไม้กวาดอีก..! เพราะว่าชาวบ้านหาอะไรกินไม่ได้ เคี้ยวเข้าไปก็เหมือนเคี้ยวกระดาษ แต่ก็ต้องกิน เพื่อให้รอด บิณฑบาตกี่วัน ๆ กับข้าวก็ได้แค่น้ำพริกกะเหรี่ยง แล้วก็รู้อยู่ว่าน้ำพริกกะเหรี่ยงก็คือใส่ปลาร้ากะเหรี่ยง ซึ่งขึ้นชื่อว่าปลาร้า แต่ไม่เคยได้หมักจากปลาสักที ส่วนใหญ่ก็หมักจากพวกสัตว์ต่าง ๆ ที่เขาหาได้ กลิ่นประทับใจไปเป็นกิโลเมตรเลย..! ก็อยู่กันแบบนั้นแหละ มีน้ำพริกแล้ว ส่วนที่เหลือก็ไปหาเอาในป่า

ช่วงที่กระผม/อาตมภาพธุดงค์อยู่ บางทีก็ต้องฉันกล้วย ฉันมะละกอแทนข้าว ฉันฟักทองแทนข้าว บางทีเขาถวายมันสำปะหลังมาหัวหนึ่ง ก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร ยาวประมาณท่อนแขนเท่านั้น คือแค่คืบกว่า ๆ ต้องแบ่งเป็น ๓ ท่อน เผาฉันวันละท่อนให้พออยู่ได้เท่านั้น..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2023 เมื่อ 01:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา