ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 03-09-2023, 23:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,681
ได้ให้อนุโมทนา: 151,934
ได้รับอนุโมทนา 4,417,190 ครั้ง ใน 34,271 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ข้อจำกัดเหล่านี้ทำให้หลายท่านทำพระคาถาเงินล้านแล้ว "ไม่ขึ้น" คำว่า ไม่ขึ้น ในที่นี้ก็คือ ไม่บังเกิดผล ความจริงแล้วถ้าเรารู้จักสังเกตอารมณ์ใจตนเอง จังหวะไหน การวางอารมณ์ใจเท่าไร สมาธิอยู่ในขั้นใด ที่เราทำแล้วเกิดผลต่อพระคาถาบทใดบทหนึ่ง พระคาถาบทอื่น ๆ ก็ทำแล้วจะได้ผลเช่นกัน วางกำลังใจให้เท่ากัน ตั้งใจภาวนาในลักษณะเดียวกัน เท่านี้ทุกคาถาเราก็สามารถทำขึ้นได้

เหมือนอย่างที่วันนี้มีญาติโยมมารายงานว่า ตนเองนั้นโดนมีดบาดมือ แต่เนื่องจากว่าอยู่ในจุดที่ต้องใช้งานอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้บาดแผลไม่หายเสียที กระผม/อาตมภาพจึงบอกว่า "เดี๋ยวจะเป่าให้" ว่าแล้วก็ใช้คาถามหาประสานเป่าไปให้

ปรากฏว่าหลังจากนั้นหลายวันผ่านไป ญาติโยมมารายงานในวันนี้ว่า "บาดแผลหายสนิทตั้งแต่วันนั้นแล้ว" ก็คือการที่เราวางกำลังใจเท่ากันในการใช้พระคาถานั่นเอง ถ้าทำขึ้นบทหนึ่ง ก็แปลว่าอีกกี่สิบกี่ร้อยบท ท่านทั้งหลายก็จะทำขึ้นไปด้วย เนื่องเพราะว่าใช้กำลังใจเท่ากัน ใช้วิธีการเดียวกัน ใช้ระดับสมาธิเท่ากัน

กระผม/อาตมภาพนั้น โดนพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านฝึกมาตั้งแต่วัยรุ่น เนื่องเพราะท่านรู้ว่ากระผม/อาตมภาพชอบฤทธิ์เดชเวทมนตร์คาถา จึงมอบพระคาถามาให้ บอกว่า "พระคาถาบทนี้ดีอย่างนี้ ให้เอาไปภาวนาอย่างน้อยต่อเนื่องให้ได้สัก ๓๐ นาทีต่อครั้ง และที่แน่ ๆ ก็คือต้องรักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ ให้เวลาไปลองทำดู ๓ เดือน ถ้าได้ผลแล้วให้มารายงานด้วย"

กระผม/อาตมภาพส่วนใหญ่แล้วไปทำแค่ไม่กี่วันก็เห็นผลแล้ว เมื่อมารายงาน ท่านก็บอกว่า "ดีแล้วลูก ต่อไปเอาบทนี้ไปลองทำดู จะมีผลแบบนี้ ๆ" ซึ่งบางบทนั้น กระผม/อาตมภาพภาวนาตรงนั้นก็ได้ผลอย่างนั้นแล้ว..!

เมื่อโดนฝึกฝนในลักษณะอย่างนี้บ่อย ๆ ไม่ทราบว่าด้วยความที่เป็นคนขี้เกียจ หรือว่าเป็นคนที่ชอบทำของยากให้เป็นของง่าย จึงพยายามสังเกตว่า ตอนที่เราทำพระคาถาได้ผลนั้น เราวางกำลังใจอย่างไร เราตั้งสมาธิในระดับไหน เมื่อจับจุดได้ก็ใช้วิธีนั้นแล้วก็เกิดผล ไม่ต้องเสียเวลา ๓ เดือนหรือ ๑ เดือน ตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านกำหนดเอาไว้ บางอย่างทำตรงนั้นก็สามารถที่จะเห็นผลตรงนั้นเลย

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงขอให้ญาติโยมทั้งหลายที่จะใช้พระคาถาเงินล้านนั้น ลองสังเกตอารมณ์ใจของเราดู ว่าเมื่อเราทำได้ผลนั้น วางกำลังใจลักษณะไหน เมื่อตนเองไปใช้พระคาถาบทอื่น ๆ ก็วางกำลังใจลักษณะเดียวกัน สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ ต้องมีใจเป็นอุเบกขา ไม่ยินดี ไม่ยินร้าย ไม่อยากให้เกิดผล แต่ก็ไม่ใช่ไม่ต้องการให้เกิดผล คือตั้งใจว่าจะให้เป็นอย่างไร แล้วลืมความตั้งใจนั้นเสีย มีหน้าที่ภาวนาอย่างเดียว ถ้าวางกำลังใจแบบนี้ได้ ก็จะได้ผลเร็ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-09-2023 เมื่อ 02:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา