ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 05-09-2023, 00:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,604 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพต้องเดินทางไปยังวัดราษฎร์ศรัทธากะยาราม (ธ) บ้านวัดราษฎร์ หมู่ที่ ๒ ตำบลหลักสาม อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ตั้งแต่เช้า เพื่อทำการตรวจประเมินหมู่บ้านวัดราษฎร์ เพื่อยกขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ ไปถึงก็ต้องทึ่งกับความอลังการของการจัดสถานที่

ในเรื่องของบุญของกุศล โดยเฉพาะในเรื่องของความรักใคร่สามัคคีนั้น ต้องยกให้กับพี่น้องชาวมอญ เนื่องเพราะว่าหมู่บ้านวัดราษฎร์นี้เป็นพี่น้องชาวมอญเกือบทั้งสิ้น แค่นางรำที่ยกมาต้อนรับคณะกรรมการโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ก็มีถึง ๑๕๐ คน ทำเอาประธานกรรมการของเราตีหน้าบอกไม่ถูก เนื่องเพราะว่าถ้าแจกรางวัลเป็นรายตัว ก็มีหวังได้ล่มจมกันแน่..! ท้ายที่สุดก็ทราบว่าของเขามีชมรม จึงได้มอบเงิน ๕,๐๐๐ บาทให้ทางชมรมเอาไว้สนับสนุนงานต่าง ๆ

กระผม/อาตมภาพที่ไม่ได้ไปฉันเช้ากับใคร เมื่อกราบทักทายบรรดาพระเถรานุเถระแล้ว ก็เดินดูนิทรรศการต่าง ๆ ของเขา โดยเฉพาะการกวนกระยาสารทและการกวนกาละแม ซึ่งการกวนกระยาสารทและการกวนกาละแมในสมัยก่อนนั้น เป็นเวลาที่หนุ่มสาวจะสามารถพบปะกันได้โดยที่พ่อแม่ไม่หวงห้าม หนุ่ม ๆ มักจะไปช่วยบ้านที่มีลูกสาววัยกำดัดในการกวนกาละแม เนื่องเพราะว่าต้องกวนให้ข้าวเหนียวและกะทิเข้าเป็นเนื้อเดียวกันก่อนที่จะเติมน้ำตาล กว่าที่กะทิจะงวดให้เติมน้ำตาลได้ อย่างน้อย ๆ ก็ใช้เวลา ๗ - ๘ ชั่วโมง..!

ดังนั้น..สมัยที่กระผม/อาตมภาพยังเด็กอยู่ จึงมีผู้ใหญ่บางบ้านกล่าวว่า "มาขอลูกสาวบ้านข้า ไม่เรียกร้องสินสอดทองหมั้นอะไรหรอก เอากาละแมกว้างวา ยาววา หนาศอกมาให้ข้าก็พอ" ซึ่งถ้าหากว่าท่านทั้งหลายเห็นว่ากาละแมแต่ละถาด ซึ่งหนาประมาณ ๑ นิ้ว กว้างสัก ๑๒ นิ้ว ยาวสัก ๒๐ นิ้วนั้น ต้องใช้ทั้งกะทิ ทั้งข้าวเหนียว ทั้งน้ำตาลจำนวนมากขนาดไหน ก็คงพอจะนึกออกว่า กาละแมกว้างวา ยาววา หนาศอกนั้น ต้องใช้ทรัพยากรขนาดไหนถึงจะกวนขึ้นมาได้ ไม่ใช่เฉพาะมีวัสดุเท่านั้น ยังต้องมีบารมีขนาดคนทั้งตำบลมาช่วยกันทำด้วย ไม่เช่นนั้นไม่มีทางสำเร็จอย่างเด็ดขาด..!

ก็พอ ๆ กับที่บางคนบอกว่า "มาขอลูกสาวข้า ไม่ต้องการสินสอดทองหมั้นอะไรหรอก แค่เอาแมวสามสีตัวผู้มาให้ข้าสักตัวก็พอแล้ว ข้าจะยกลูกสาวให้เลย" ซึ่งก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมคนโบราณช่างสังเกตขนาดนั้น เนื่องเพราะว่าแมวที่มีสามสีนั้น ไม่ทราบเหมือนกันว่าดีเอ็นเอ หรือโครโมโซมไปลงตัวอีท่าไหน จึงมีแต่ตัวเมียทั้งสิ้น..!

กระผม/อาตมภาพเองสังเกตมามากต่อมากด้วยกันแล้ว แต่หลังจากที่อายุ ๕๐ กว่า ๖๐ ปีมา ก็มีคนบอกว่า มีแมวสามสีตัวผู้อยู่ตัวหนึ่ง แต่ว่าเป็นหมัน ก็คือไม่สามารถที่จะสืบพันธุ์ได้ แปลว่าไอ้เจ้านี่แหกคอก ประมาณ ๑ ในหลายล้าน เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า โครโมโซมหรือว่าดีเอ็นเอของแมวสามสีนั้น มักจะไปตกเป็นตัวเมียเสียทั้งหมด

ดังนั้น..หนุ่มบ้านไหนที่จะไปขอสาว ได้ยินว่าที่พ่อตาบอกว่า แค่เอาแมวสามสีตัวผู้มาแลกก็จะยกลูกสาวให้ อย่าได้ดีอกดีใจเป็นอันขาด ท่านแสวงหาทั้งชีวิตก็อาจจะหาแมวสามสีตัวผู้ไม่ได้ พูดง่าย ๆ ว่า ว่าที่พ่อตาปฏิเสธไม่ยกลูกสาวให้นั่นแหละ เพียงแต่ไม่ได้บอกตรง ๆ เท่านั้นเอง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-09-2023 เมื่อ 01:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา