ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 06-09-2023, 00:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,978
ได้รับอนุโมทนา 4,416,246 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๕ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพต้องวิ่งไปยังโรงเรียนอนุบาลนาคประสิทธิ์ ตำบลคลองใหม่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เพื่อร่วมฉันเพลกับคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ก่อนที่จะไปทำตรวจประเมินที่บ้านหัวอ่าว วัดบางช้างใต้

โดยเฉพาะโรงเรียนนาคประสิทธิ์นี้เป็นโรงเรียนของวัดบางช้างเหนือ วัดบางช้างเหนือในอดีตนั้น มีพระเกจิอาจารย์ผู้ที่โด่งดังมาก ๆ ก็คือหลวงปู่จ้อย วัดบางช้างเหนือ ซึ่งบางคนก็เรียกหลวงปู่เจ๊ก เพราะว่าท่านมีเชื้อสายจีน หลวงปู่จ้อยโด่งดังทางด้านเครื่องราง คือ ตะกรุดไม้ไผ่ และเครื่องรางรูปนักษัตรปีวอก หรือว่ารูปลิง

โดยเฉพาะประวัติที่เล่าขานก็คือ ท่านเองจะฉันน้ำตาลเมาทั้งวัน เมื่อพระสังฆาธิการจากกรุงเทพฯ ไปทำการสอบสวน ท่านก็เทน้ำชาถวายทั้งสองรูป หลังจากนั้นแล้วก็สอบถามว่า "มาด้วยธุระอะไร ?" ทั้งสองรูปบอกว่า "ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชามาให้สอบสวนหลวงพ่อ ถ้าหากว่าฉันน้ำตาลเมาจริงก็ต้องจับสึก..!"

หลวงปู่จ้อยท่านบอกว่า "ถ้าอย่างนั้นคุณสองก็ต้องสึกด้วย เหตุเพราะว่าเพิ่งจะฉันน้ำตาลเมาลงไปเช่นกัน..!" ทั้งสองรูปได้ฟังก็ตกใจ หลวงปู่จ้อยชี้ให้ดูถ้วยน้ำชาที่เพิ่งจะฉันไป เมื่อยกขึ้นมาดม กลายเป็นกลิ่นน้ำตาลเมา ทั้งสองรูปก็เลยก้มกราบ บอกว่า "เข้าใจแล้วครับ" แล้วก็ลากลับไป

เราจะเห็นได้ว่า ในเรื่องของอภิญญาสมาบัตินั้น ถ้าหากว่าฝึกปรือจนคล่องตัวแล้ว เราคิดอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ต้องบอกว่าหลวงปู่จ้อยท่านเบื่อที่มีแต่คนไปรบกวนอยู่ตลอดเวลา ก็เลยแกล้งแบกไหน้ำตาลเมาเดินโซซัดโซเซทั้งวัน แต่ความจริงตอนที่ท่านฉันก็คือน้ำชา แต่พอคนอื่นไปเมื่อไร ก็กลายเป็นน้ำตาลเมา

วัดบางช้างเหนือนั้นมีหลวงพ่อเจ้าคุณแก้ว - พระพิพัฒน์ศึกษากร (พนม รตนาโภ) เจ้าคณะจังหวัดนครปฐมเป็นเจ้าอาวาส ซึ่งหลวงพ่อเจ้าคุณแก้วนั้น เป็นเพื่อนร่วมเรียนกับกระผม/อาตมภาพมาตั้งแต่สมัยประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ ปริญญาตรีสาขาพระพุทธศาสนา ปริญญาโทสาขาการจัดการเชิงพุทธ

แล้วเป็นเรื่องอัศจรรย์ว่ารุ่นนี้เพื่อนฝูงรุ่นนี้เป็นเจ้าคณะจังหวัดไปแล้วสองรูป ก็คือหลวงพ่อเจ้าคุณแก้วเป็นเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม แล้วท่านเจ้าคุณประไพ อดีตพระครูวิบูลเจติยานุรักษ์ (ประไพ ปุญฺญกาโม ป.ธ.๓) ปัจจุบันก็คือพระสุพรรณวชิราภรณ์ เป็นเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี ต้องบอกว่าพรรคพวกเพื่อนฝูงล้วนเจริญก้าวหน้า ทั้งทางด้านสมณศักดิ์และตำแหน่งการปกครอง จึงพลอยเป็นเกียรติเป็นศรีให้พวกกระผม/อาตมภาพไปด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-09-2023 เมื่อ 06:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา