ดังนั้น..ทุกวันนี้กระผม/อาตมภาพนั่งอยู่ตรงนี้ได้ เพราะว่าไม่ได้รอให้ครูบาอาจารย์มาจ้ำจี้จ้ำไช ปากเปียกปากแฉะ แต่ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติตามสิ่งที่ท่านสอนไปเลย โดยเฉพาะการฟังคำสอนว่าเป็นคำสั่ง ท่านบอกอะไรคือท่านสั่งให้ทำอย่างนั้น ไม่ใช่ฟังคำสอนให้เป็นคำสอน ใครที่ฟังคำสอนเป็นคำสอนก็จะปล่อยให้เลยหูไป แบบที่ท่านทั้งหลายส่วนมากทำกัน แล้วพอเอาดีไม่ได้ ก็มาแหงนคอรอคอยว่า เมื่อไรครูบาอาจารย์จะมาชี้ที่ผิดที่ถูกให้อีก
ถ้าลักษณะแบบนี้ ก็แปลว่าชีวิตนี้ไม่ต้องหวัง เนื่องเพราะว่าเรารักษากำลังใจของตัวเองไม่ได้ เท่ากับปล่อยให้ไหลตามน้ำไปอยู่ตลอดเวลา เมื่อถึงเวลาครูบาอาจารย์ชี้ทางให้ก็ว่ายขึ้นมาใหม่ ไหลตามน้ำไปเป็นวันเป็นเดือน แต่ว่ายขึ้นมาแค่ไม่กี่นาที แล้วเมื่อไรจะได้ผลงานเท่าเดิม ? ไม่ต้องไปหวังเลยว่าจะมีความก้าวหน้ามากกว่าเดิม
เรื่องของการปฏิบัติธรรมจึงเป็นเรื่องของบุคคลที่บารมีเต็มจริง ๆ โดยเฉพาะในส่วนของวิริยบารมี พากเพียรไม่ท้อถอย สัจจบารมี จริงจังจริงใจกับการปฏิบัติ ปัญญาบารมี รู้จักควบคุม ผ่อนหนักผ่อนเบาตามสถานการณ์ ใครที่ไม่สามารถทำได้ ต้องรู้ตัวว่าบารมีของเรายังอ่อนมาก
แบบเดียวกับที่วันก่อนได้กล่าวไปว่า พระครูวาทีวรวัฒน์, ดร. (กล้า วีรรตโน) รองเจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบุรี เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุวรวิหาร ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนทั้งลูกศิษย์ ท่านบ่นว่า "ผมอยากจะทำให้ได้อย่างหลวงพ่อบ้าง แต่ก็ทำไม่ได้สักที" ก็อยู่ในลักษณะเดียวกับพวกเรา คือ ความเพียรพยายามยังไม่พอ ขาดความจริงจังในการปฏิบัติ ขาดความอดทนอดกลั้นต่อความยากลำบาก แต่ไปหวังความสำเร็จอย่างเดียว..!
ในการเทศน์วันพระเมื่อเช้านี้ กระผม/อาตมภาพถึงได้ถามว่า แทงใจดำใครบ้าง ? ปฏิบัติอีเหละเขละขละ ไม่เป็นโล้ไม่เป็นพาย แต่กลับหวังพระนิพพาน เป้าหมายของเรากับการกระทำห่างกันเท่าไร..!?
ดังนั้น...พวกเราทั้งหลาย ถ้าหากว่าไม่เร่งรีบในการปฏิบัติ เพื่อที่จะดึงเอากำลังใจของเรากลับมาให้ได้เท่าเดิม โดยเฉพาะความมุ่งหวังแรก ๆ ที่เราบวชมาเพื่ออะไร ? ในเมื่อบวชมา ตั้งใจที่จะพ้นจากกองทุกข์ ความดีความสามารถเพียงเบื้องต้น เราก็ยังทำไม่ได้ แล้วจะไปหวังอะไรกับเบื้องกลางและเบื้องปลายที่เราตะเกียกตะกายไปไม่ถึง แล้วถ้ายิ่งเราปล่อยนานเข้า กิเลสก็จะทำให้เราฟุ้งซ่านหนักขึ้น ท้ายสุดก็อยู่ไม่ได้..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-09-2023 เมื่อ 02:09
|