ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 23-09-2023, 01:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,653 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องพวกนี้จึงเป็นเรื่องที่พวกเราต้องพึงสังวรเอาไว้ ว่าภาระหน้าที่ของพระภิกษุสามเณรมีอะไร ต้องทำให้เต็มที่ เพราะว่าเป็นเครื่องช่วยชีวิตของเราทั้งสิ้น แม้กระทั่งการปัดกวาดลานวัด เช็ดถูศาลา ถ้าหากว่ารู้จักทำ ก็คือการปฏิบัติกรรมฐานดี ๆ นี่เอง

กระผม/อาตมภาพบวชใหม่ ๆ รับหน้าที่ถูศาลานวราชบพิตรที่วัดท่าซุง ไม่ต้องให้ใครสั่ง ทำเพราะอยากทำ ไม้กวาดจะไปซ้าย จะไปขวา จะไปหน้า จะไปหลัง รู้อยู่ ไม้ถูจะไปหน้า จะไปหลัง จะไปยาว จะไปสั้น รู้อยู่ มีสติรู้ตัวอยู่ตลอดเวลาที่ทำงาน เพียงแต่ว่าทำได้ไม่นาน ญาติโยมเห็นพระถูศาลาแล้วทนไม่ได้ก็มาแย่งทำ กระผม/อาตมภาพก็ต้องไปหางานอื่น เนื่องเพราะว่าใช้งานเป็นกรรมฐาน

ตอนออกบิณฑบาตก็ตั้งใจเอาไว้ว่า ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินออกจากประตูวัด จนถึงก้าวสุดท้ายที่กลับคืนมาวัด เราต้องรักษากำลังใจไม่ให้หลุดจากการภาวนาให้ได้ วันแรกที่ทำได้นั้นเป็นวันที่มีความสุขที่สุด เพราะว่าระยะทางในการบิณฑบาตนั้นยาวไกลมาก เราสามารถที่จะรักษากำลังใจได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ก็แปลว่าเราสามารถที่จะเอาชนะกิเลสได้บางส่วนแล้ว

เวลาเจริญกรรมฐาน คนอื่นนั่งรถรางไปยังวิหาร ๑๐๐ เมตร กระผม/อาตมภาพกับท่านสมปองเดินไป ก็คือเดินไปภาวนาไป เอากำไรตั้งแต่ต้น กว่าที่จะไปถึง เข้าที่สำหรับทำวัตร กำลังใจก็ทรงตัวเต็มที่แล้ว เมื่อทำวัตรเสร็จ เริ่มเจริญกรรมฐานก็อยู่ในลักษณะที่พร้อมจะทิ้งทุกอย่างไปได้เลย เสร็จสิ้นจากการเจริญพระกรรมฐาน อุทิศส่วนกุศลแล้ว ก็ประคับประคองรักษาอารมณ์ที่เราทำได้เอาไว้ อย่างน้อย ๆ ต้องอยู่กับเราตั้งแต่เลิกกรมฐานจนก่อนจะหลับ พอมาภายหลัง สามารถทำได้ดีขึ้น แม้แต่หลับก็รู้อยู่ว่าตัวเองหลับ จะตื่นเมื่อไรยังต้องสั่งให้ตัวเองตื่น..!

เรื่องของการปฏิบัติจะก้าวหน้าตามนี้ ถ้าหากเรารู้ตัวว่าเราทำอะไรอยู่ และเป้าหมายของเราคืออะไร คำว่าท้อถอยไม่เคยปรากฏขึ้นในใจเลย ทั้ง ๆ ที่ล้ม ๆ ลุก ๆ บางวันเป็นร้อย ๆ ครั้ง เนื่องจากว่ามีนิสัยว่า ถ้ามีคู่ต่อสู้อยู่ตรงหน้า ก็ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง คำว่ายอมแพ้ไม่เคยมี..!

ถ้าท่านทั้งหลายสามารถปฏิบัติได้อย่างนี้ โอกาสที่ท่านจะรักษากำลังใจของตนเอาไว้ได้ก็จะมีมาก ระยะเวลาที่เหลือก่อนออกพรรษา ก็สามารถที่จะอยู่อย่างมีความสุข แต่ถ้าหากว่าทำไม่ได้ ก็ต้องทนฟุ้งซ่านไปอีกเป็นเดือน กว่าที่จะมีโอกาสสึกหาลาเพศไป ก็แปลว่าท่านยอมโง่ลำบากเอง..! ทั้ง ๆ ที่สามารถทำให้ตัวเองสบายได้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๒๒ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-09-2023 เมื่อ 02:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา